Decompression Sickness (โรคน้ำหนีบ) ค่าใช้จ่าย และการรักษา

ความรู้เกี่ยวกับการดำน้ำ และข้อมูล Dive Site ที่เป็นประโยชน์ ที่น่านำมาบอกต่อให้ทราบโดยทั่วกัน
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
FreedomDIVE
Advanced Member
โพสต์: 298
meble kuchenne - tworzymyatmosfere.pl
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.ค. 28, 2005 10:51 am
ติดต่อ:

โพสต์ โดย FreedomDIVE »

ข้อมูลจาก: http://www.manager.co.th/Qol/ViewNews.a ... 0000034197' target='_blank'>http://www.manager.co.th/Qol/ViewNews.a ... 0034197>

================================================

คงต้องยอมรับกันว่า “จ.ภูเก็ต” นั้นคือ สวรรค์แห่งการท่องเที่ยวในทุกมิติ โดยแต่ละปีสามารถดึงดูดผู้คนจากทั่วสารทิศมายังเกาะไข่มุกอันดามันแห่งนี้ ได้เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ภูเก็ตเป็นแหล่งดำน้ำที่สวยงามแห่งหนึ่งของโลก ทำให้การดูแลป้องกันความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวทางทะเลเป็นสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากการดำน้ำอย่าง “โรคน้ำหนีบ” หรือ การได้รับบาดเจ็บจากแรงดันใต้น้ำ ที่เป็นภัยเงียบคุกคามนักดำน้ำอย่างไม่รู้ตัว

ณัฏฐ์ภรณ์ ณัฐปัณฑ์ร พยาบาลวิชาชีพ 6 งานเวชศาสตร์ใต้น้ำ รพ.วชิระภูเก็ต ให้รายละเอียดไว้ว่า โรคน้ำหนีบเป็นโรคซึ่งเกิดจากการที่แก๊สละลายเข้าสู่เนื้อเยื่อในร่างกายขณะดำน้ำแล้วแก๊สนั้นรวมตัวกันเป็นฟองอากาศอยู่ภายในเส้นเลือด และเนื้อเยื่อต่างๆ โดยมีสาเหตุมาจากการดำน้ำที่ลึก และใช้เวลานานเกินกำหนดแล้วขึ้นสู่ผิวน้ำ โดยไม่หยุดลดความกดดันภายในร่างกายให้เป็นปกติ ซึ่งเปรียบเทียบให้เห็นชัดเจนได้กับขวดน้ำอัดลมที่หากมองตาเปล่าก็จะมองไม่เห็นฟองอากาศ แต่หากเขย่าขวด ฟองอากาศก็จะขยายใหญ่ขึ้นจนเกิดแรงดันออกมา

เช่นกันกับคนที่อยู่ใต้น้ำเป็นเวลานาน ซึ่งขณะที่ดำลงไปยิ่งลึกเท่าไหร่ มวลของอากาศจะถูกบีบให้เล็กลง และเมื่อดำขึ้นสู่ผิวน้ำอย่างรวดเร็ว ก็เหมือนกับการเขย่าขวดน้ำอัดลม คือ หากดำขึ้นเร็วกว่าความดันอากาศที่หายใจออก อากาศก็จะขยายใหญ่ขึ้น แล้วแทรกตามหลอดเลือด เข้าไปทางกล้ามเนื้อ เส้นประสาท ถ้าเป็นฟองก้อนขนาดใหญ่จะไหลเวียนเข้าสู่สมอง อาจทำให้เส้นเลือดสมองตีบตัน ความรู้สึกลดลง คลื่นไส้ เวียนหัว หากเป็นบริเวณเส้นประสาทจะมีอาการชาเหมือนเข็มทิ่มแทง

“คนที่ขึ้นจากผิวน้ำอย่างรวดเร็วแล้วเกิดอาการ บางรายถึงขั้นหมดสติ บางรายจะไม่หมดสติเสียทีเดียว แต่จะมีอาการชาตามปลายมือ ปลายเท้า มีอาการเวียนหัว คลื่นไส้ ถ้าเข้ารับการรักษาไม่ทันเวลาอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ เพราะอาการจะไม่เป็นอย่างรวดเร็ว บางรายใช้เวลา 2 วัน บางรายรู้สึกช้า ซึ่งขึ้นอยู่กับระดับการดำน้ำถ้าใช้เวลานานมากอาการของโรคก็จะมีมากเช่นกัน” ณัฏฐ์ภรณ์ ขยายความ

สำหรับภารกิจกู้ชีพผู้ประสบเหตุจากโรคน้ำหนีบนั้น ณัฏฐ์ภรณ์ บอกว่า นักท่องเที่ยวที่มาดำน้ำที่นี่ส่วนใหญ่จะมีอาการน้ำหนีบ และได้รับการบาดเจ็บจากปัญหาแรงดันใต้น้ำ ทางโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตจึงได้จัดตั้ง “ห้องปรับบรรยากาศความกดดันสูง” (Hyperbaric Chamber) ขึ้น

โดยกลไกการทำงานของเครื่องนั้น เป็นการรักษาด้วยออกซิเจนภายใต้ความดันอากาศสูง โดยจำลองให้เหมือนกับว่าเป็นการดำน้ำกลับลงไปในระดับความลึกที่มีอาการอีกครั้ง เพื่อต้องการบีบมวลอากาศที่ขยายใหญ่ขึ้นให้เล็กลงเหมือนเดิม แล้วระบายมวลอากาศนั้นออกทางลมหายใจให้หมด โดยเครื่องนี้จะให้ออกซิเจนบริสุทธิ์ 100% จากนั้นจะมีตัวดูดอากาศออก เพื่อให้มีการหมุนเวียนเป็นไปอย่างปกติ

ด้านหลักการทำงานของเครื่อง Hyperbaric Chamber ที่มีลักษณะเป็นถังเหล็กขนาดใหญ่นั้นเมื่อปิดประตูจะมีการอัดแรงดันลมเข้าไปโดยจำลองให้เท่ากับความลึกของน้ำที่แสดงอาการ

“การเข้าเครื่องนี้จะช่วยลดขนาดฟองอากาศที่ไหลเวียนเข้าสู่หลอดเลือดของผู้ป่วยทั้งหมด บีบให้มีขนาดเล็กลงเหมือนเดิม เหมือนตอนอยู่ใต้ความลึกระดับที่เคยดำ แล้วระบายออกทางลมหายใจโดยผ่านหน้ากากดูดอากาศออก ให้แรงดันภายในร่างกายกลับสู่ภาวะปกติ ซึ่งหลักการทำงานตรงนี้ได้ช่วยชีวิตของนักท่องเที่ยวอาการน้ำหนีบมาแล้วหลายราย บางรายมีอาการมากว่า 2 วันแต่ไม่ทราบ มาทราบเอาวันที่ตัวเองหมดสติ ไม่รู้สึกตัวต้องจนต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ เมื่อฟื้นตัวขึ้นมาผู้ป่วยก็เข้าสู่ภาวะอัมพาต แต่หลังจากที่ผู้ป่วยเข้าเครื่องนี้ผ่านไปประมาณ 7 ครั้ง ผู้ป่วยก็สามารถลุกเดินได้ ทั้งนี้หากผู้ป่วยที่เป็นโรคน้ำหนีบ มาเข้ารับการรักษาทันภายใน 6 ชั่วโมง หลังจากขึ้นจากน้ำแล้วมีอาการ การรักษาจะสามารถหายได้ 100% ไม่มีพยาธิสภาพหลงเหลืออยู่”

ณัฏฐ์ภรณ์ ยังบอกอีกว่า นอกจากการรักษาโรคน้ำหนีบแล้วนั้น เครื่องนี้ยังสามารถรักษาโรคเสริมได้อีกหลายโรคเช่น โรคที่เกิดจากแผลเบาหวาน แผลเรื้อรัง แผลจากการฉายรังสี แผลที่เนื้อเยื่อถูกทำลาย ซึ่งหากผู้ที่มีอาการเหล่านี้มาเข้าเครื่องรักษา ออกซิเจนภายในเครื่องจะช่วยสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่ เป็นการทำให้แผลที่เกิดหายเร็วยิ่งขึ้น

สำหรับค่าใช้จ่ายในการเข้ารับการรักษานั้น หากเป็นโรงพยาบาลรัฐจะถูกกว่าเอกชนประมาณ 3 เท่า หากมีการใช้ในการรักษาโรคเสริมจะเสียครั้ง 1,250 บาท แห่หากเป็นการรักษาด้วยโรคน้ำหนีบจะคิดชั่วโมงๆ ละ 12,000 บาท ทั้งนี้ในส่วนของการใช้สิทธิประกันสังคมตามที่กรมบัญชีกลางกำหนดไว้ที่ให้สามารถใช้เครื่องนี้ได้นั้นคือ โรคจากการดำน้ำ แผลเบาหวาน ภาวะของการเกิดแผลจากการฉายรังสี
ดำน้ำ สบายใจ กับ FreedomDIVE.com
FreedomDIVE ให้คุณอุ่นใจกับการไปดำน้ำ ด้วยประกันอุบัติเหตุ ตั้งแต่ก้าวออกจากบ้าน
ตอบกลับโพส