ค่าบริการฝากสัมภาระลงใต้ท้องเครื่อง

[Taklyz]

Air Asia เก็บค่าบริการฝากสัมภาระลงใต้ท้องเครื่อง

เริ่มต้นกับ..
ค่าบริการฝากสัมภาระลงใต้ท้องเครื่อง
ตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน 2551 เป็นต้นไป ผู้โดยสารที่ต้องการฝากสัมภาระลงใต้ท้องเครื่องต้องชำระค่าธรรมเนียมการขนส่งสัมภาระในอัตราชิ้นละ 30 บาท หากแจ้งความจำนงล่วงหน้า หรือชิ้นละ 50 บาท หากแจ้งความจำนง ณ เคาน์เตอร์เช็คอินของสายการบินฯ ประจำท่าอากาศยาน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ และ เคาน์เตอร์จำหน่ายบัตรโดยสาร

อัตราค่าธรรมเนียม

แจ้งความจำนงล่วงหน้า ชิ้นละ 30 บาท
แจ้งความจำนง ณ เคาน์เตอร์เช็คอิน ชิ้นละ 50 บาท


คำถามที่พบบ่อย
1. ทำไมไทยแอร์เอเชียจึงต้องเก็บค่าบริการฝากสัมภาระลงใต้ท้องเครื่อง?
ไทยแอร์เอเชียเชื่อว่าผู้โดยสารควรได้รับสิทธิในการเลือกใช้บริการที่ต้องการ และเสียค่าใช้จ่ายเฉพาะในส่วนที่ตนเองใช้บริการเท่านั้น ด้วยวิธีการนี้ทำให้ไทยแอร์เอเชียสามารถคงการให้บริการในอัตราที่ประหยัดกว่าได้ ซึ่งถือเป็นนโยบายที่สำคัญที่สุดของเรา

ก่อนหน้านี้ค่าใช้จ่ายในการฝากสัมภาระลงใต้ท้องเครื่องถูกรวมอยู่ในค่าโดยสารโดยอัตโนมัติ ซึ่งหมายความว่าผู้โดยสารที่เดินทางโดยถือสัมภาระขึ้นเครื่องตามปกติต้องแบกรับภาระผู้โดยสารท่านอื่นที่ฝากสัมภาระหนักลงใต้ท้องเครื่องด้วย แต่ด้วยบริการนี้จะทำให้ผู้โดยสารเสียค่าใช้จ่ายตามจำนวนสัมภาระจริงที่ตนเองได้พกพาไปขณะเดินทาง

สืบเนื่องจากค่าเชื้อเพลิงที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ไทยแอร์เอเชียมุ่งหวังที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักเดินทางด้วยการกระตุ้นให้ทุกคนเดินทางด้วยสัมภาระน้อยชิ้น ซึ่งน้ำหนักของสัมภาระที่น้อยลงจะส่งผลให้เครื่องบินเผาพลาญเชื้อเพลิงน้อยลง ลดการก่อมลภาวะและช่วยสร้างสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น นอกจากนี้สัมภาระที่ลดลงสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติการ ณ ท่าอากาศยานและการเช็คอินได้อีกด้วย

2. ค่าบริการฝากสัมภาระลงใต้ท้องเครื่องมีผลบังคับใช้เมื่อใด?
ค่าบริการนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืน หนึ่งนาที ของเช้าวันที่ 21 เมษายน 2551 เป็นต้นไป สำหรับผู้ที่สำรองที่นั่งก่อนวันที่ 21 เมษายน 2551 จะได้รับสิทธิไม่ต้องเสียค่าบริการฝากสัมภาระลงใต้ท้องเครื่อง ไม่ว่ากำหนดการเดินทางจะเป็นเมื่อใดก็ตาม

3. สายการบินอื่นๆ ไม่เก็บค่าบริการฝากสัมภาระลงใต้ท้องเครื่อง ทำไมไทยแอร์เอเชียจึงเรียกเก็บค่าบริการดังกล่าว?
โดยพื้นฐานแล้วไทยแอร์เอเชียยึดมั่นการให้บริการในราคาประหยัด และเราเชื่อว่าผู้โดยสารควรเสียค่าใช้จ่ายเฉพาะในส่วนที่ได้ใช้บริการจริงเท่านั้น แต่เนื่องด้วยความผันผวนของราคาน้ำมันในตลาดโลกทำให้ไทยแอร์เอเชียเล็งเห็นว่าควรมีการรณรงค์ให้ผู้โดยสารปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการเดินทาง โดยลดน้ำหนักและจำนวนสัมภาระที่พกพาไปกับการเดินทาง

การเก็บค่าบริการฝากสัมภาระลงใต้ท้องเครื่องถือเป็นนโยบายที่ได้รับการยอมรับจากผู้โดยสารที่เดินทางกับสายการบินราคาประหยัดในยุโรป และสหรัฐอเมริกา ส่วนสายการบินที่ให้บริการโดยไม่เก็บค่าบริการฝากสัมภาระลงใต้ท้องเครื่องโดยตรงจะผนวกค่าบริการและค่าธรรมเนียมต่างๆ ลงไปในบัตรโดยสารที่มีราคาสูง

ที่ไทยแอร์เอเชีย ผู้โดยสารมีทางเลือกที่จะจ่ายเพิ่มเฉพาะในส่วนที่ใช้บริการจริงเท่านั้น

4. ไทยแอร์เอเชียคิดค่าบริการฝากสัมภาระลงใต้ท้องเครื่องในอัตราเท่าไร?
สัมภาระที่ต้องการฝากลงใต้ท้องเครื่องจะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมตามจำนวนชิ้น แต่รวมทั้งหมดจะต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 15 กิโลกรัมสำหรับผู้โดยสาร 1 ท่าน (ยกเว้นทารก) หากสัมภาระที่มีน้ำหนักเกิน 15 กิโลกรัม จะต้องเสียค่าธรรมเนียมการขนส่งสัมภาระน้ำหนักเกินตามข้อกำหนดเดิมของสายการบิน

ท่านผู้โดยสารควรแจ้งความจำนงฝากสัมภาระลงใต้ท้องเครื่องล่วงหน้าเพื่อรับส่วนลดค่าธรรมเนียม อีกทั้งยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในขณะเช็คอินอีกด้วย ซึ่งการแจ้งความจำนงล่วงหน้าสามารถกระทำได้ในขณะที่ทำการสำรองที่นั่งล่วงหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนกำหนดการเดินทาง โดยมีรายละเอียดของค่าธรรมเนียม ดังนี้

สกุลเงิน THB RM IDR USD MOP CNY HKD BND PHP SGD
แจ้งความจำนงล่วงหน้า
(อัตราพิเศษ) 30 3 9000 1 8 7 8 1 41 1
แจ้งความจำนงเมื่อทำการเช็คอิน
(อัตราปกติ) 50 5 15000 2 13 12 13 2 68 2


5. ผู้โดยสารสามารถจ่ายค่าบริการฝากสัมภาระลงใต้ท้องเครื่องที่ท่าอากาศยานได้หรือไม่?
ผู้โดยสารควรแจ้งความจำนงการฝากสัมภาระลงใต้ท้องเครื่องเมื่อทำการสำรองที่นั่งไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมงก่อนกำหนดการเดินทาง เพื่อรับส่วนลดค่าบริการในราคาพิเศษ ซึ่งสามารถแจ้งความจำนงได้ที่ www.airasia.com ศูนย์บริการลูกค้า เคาน์เตอร์จำหน่ายบัตรโดยสาร และเคาน์เตอร์เอเชียประจำท่าอากาศยานทุกแห่ง


ผู้โดยสารที่ต้องการฝากสัมภาระลงใต้ท้องเครื่องในวันเดินทางจะต้องจ่ายค่าบริการในอัตราที่สูงกว่า ไทยแอร์เอเชียยึดมั่นให้บริการที่สะดวกสบายสำหรับผู้โดยสาร เราขอแนะนำให้ท่านแจ้งความจำนงฝากสัมภาระลงใต้ท้องเครื่องล่วงหน้าเพื่อประหยัดเวลาในการเช็คอินและเงินในกระเป๋าของท่าน


6. ผู้โดยสารยังคงต้องจ่ายค่าสัมภาระน้ำหนักเกินอีกหรือไม่?
ผู้โดยสารจะต้องจ่ายค่าสัมภาระน้ำหนักเกินเพิ่มเติม หากสัมภาระของท่านมีน้ำหนักมากกว่า 15 กิโลกกรัม โดยติดต่อชำระได้ที่เคาน์เตอร์เช็คอินของสายการบินประจำท่าอากาศยานเมื่อทำการเช็คอิน

7. ไทยแอร์เอเชียกำลังพยายามจะหารายได้เพิ่มเติมโดยใช้นโยบายนี้หรือไม่?
เนื่องมาจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไทยแอร์เอเชียจึงต้องเรียกเก็บค่าบริการฝากสัมภาระลงใต้ท้องเครื่อง เพื่อให้เรายังคงให้บริการได้ในราคาประหยัดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ การลดน้ำหนักสัมภาระที่บรรทุกไปบนเครื่องบินจะทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงน้อยลง ลดมลภาวะทางอากาศ และส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ผู้โดยสารที่มีสัมภาระน้อยกว่าจะไม่ต้องแบกรับภาระในการจ่ายค่าบริการให้กับผู้โดยสารที่มีสัมภาระมากกว่า นโยบายนี้จะส่งผลให้ผู้โดยสารนำแต่สิ่งของที่จำเป็นติดตัวไปกับการเดินทาง และทำให้เราให้บริการได้ในราคาประหยัดสำหรับทุกท่าน ไทยแอร์เอเชียมุ่งหวังที่จะให้ผู้โดยสารเดินทางด้วยสัมภาระน้อยชิ้นและเสียค่าใช้จ่ายสำหรับส่วนที่ใช้บริการจริงเท่านั้น

8. ผู้โดยสารสามารถถือสัมภาระขึ้นเครื่องได้กี่ชิ้น และน้ำหนักเท่าไร?
ผู้โดยสาร (ยกเว้นทารก) สามารถถือสัมภาระขึ้นเครื่องได้ 1 ชิ้น ซึ่งมีขนาดไม่เกิน 56 ซ.ม. x 36 ซ.ม. x 23 ซ.ม. และน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม

สัมภาระดังกล่าวจะต้องสามารถเก็บใต้ที่นั่งด้านหน้าของผู้โดยสารหรือในช่องเก็บสัมภาระเหนือศรีษะได้ หากสายการบินฯ พิจารณาแล้วเห็นว่าสัมภาระดังกล่าวมีขนาดหรือน้ำหนักเกินกว่าที่ได้ระบุไว้ สายการบินฯ ขอสงวนสิทธิไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารถือสัมภาระดังกล่าวขึ้นเครื่องได้

9. ผู้โดยสารจะนำเครื่องใช้ส่วนตัวที่เป็นของเหลวหรือเจลติดตัวขึ้นเครื่องไปได้อย่างไร ในเมื่อข้อบังคับด้านความปลอดภัยระบุว่าผู้โดยสารไม่สามารถพกพาของเหลวหรือเจลขึ้นเครื่องได้?
อันที่จริงผู้โดยสารสามารถนำเครื่องใช้ส่วนตัวที่เป็นของเหลวหรือเจลติดตัวขึ้นเครื่องได้ ทั้งนี้ต้องมีปริมาณที่ไม่เกินกว่าตามที่ระบุไว้ในข้อบังคับด้านความปลอดภัย ผู้โดยสารควรศึกษาข้อบังคับด้านความปลอดภัยสากลในเรื่องสิ่งของที่สามารถพกพาขึ้นเครื่องได้ เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทางของท่าน

[flatworm]

รับทราบ
คิดว่าก็คงเป็นอย่างที่เค้าว่ามั้ง "จะได้ไม่ต้องขึ้นราคาค่าโดยสาร"

แต่ว่าถ้ายังงงๆ ตรงที่บอกว่า "ผู้โดยสารที่มีสัมภาระน้อยกว่าจะไม่ต้องแบกรับภาระในการจ่ายค่าบริการให้กับผู้โดยสารที่มีสัมภาระมากกว่า"
ถ้าวัตถุประสงค์อย่างที่ว่า ทำไมไม่คิดค่าโหลดตามน้ำหนักกระเป๋าไปเลยเนอะ จะได้เป็นไปตามที่ว่าจริงๆ เพราะสิ่งที่ทำให้สิ่งเปลืองเชื้อเพลิง ก็คือน้ำหนัก ไม่ใช่จำนวนชิ้น

แต่ก็คงทำให้ต้องใช้เวลาเช็คอินนานขึ้น เพราะต้องเสียเวลาเก็บตังค์ ก็หยวนๆ กันไป

[Kaew]

เห็นด้วยกับ Flatworm นะ....อืม อะไรก็เงิน ว่าแต่ทริปสิปาดันนี่คงเรียบร้อยดีเนอะ จองกันล่วงหน้านี่นา....มีสายการบินอื่นไปอีกมั้ยอ่ะ.... 15 kg นี่มันในประเทศและต่างประเทศด้วยเหรอ.... :unsure:

ขอบคุณสำหรับข่าวสารค่ะ

[toey]

มารับทราบด้วยอีกคน

[ปักเป้า]

ก็เป็นธรรมดาของบริการที่รัดเข็มขัดตัวเองมาก ทำให้ sensitive ต่อหลายๆ เรื่อง

เข้าใจได้ และคงต้องบอกว่า พร้อมปฏิบัติตามคับ (แอบเศร้า นับเที่ยวแล้วก็เป็นร้อยๆ บาท เหมือนกัน)

ถ้าอยากสะดวกสบายหน่อย ก็คงต้องเลือกบินกับสายการบินที่หรูหรา ราคาสูงอีกนิด
แล้วเอาเวลาที่ปวดหัวเรื่องนี้ ไปเพลิดเพลินหรือทำอย่างอื่นแทน ให้คุ้มค่าราคาที่สูงขึ้น
ก็จะสมดุลกัน ... เป็นไปตามเหตุปัจจัยเนาะคับ

แต่ที่ไม่เข้าใจ คือทำไมไม่คิดตามน้ำหนักหว่า... ดันคิดรายชิ้นอะ หรือไม่งั้น ก็ต้อง mix กันสิคับ
เช่น เริ่มต้นที่ 30 บาท และบวกชิ้นละ 10 บาท รวมไม่เกิน 15kg มากกว่านั้น คิดตามอัตราเพิ่ม

... ว่าแล้ว ก็งง ต่อไป

[jokerzero]

เราเอาเว็ปเพื่อสุขภาพมาฝากจร้าลองเข้าดูนะจร้า
http://www.xn--12c1blfa3em0b5chrn7x2b.com/' target='_blank'>วิธีลดน้ำหนัก | http://www.xn--12c1blfa3em0b5chrn7x2b.com/' target='_blank'>สูตรลดน้ำหนัก | http://www.xn--12c1blfa3em0b5chrn7x2b.com/' target='_blank'>http://www.xn--12c1blfa3em0b5chrn7x2b.com