ภาพถ่ายและเรื่องราวจาก Raja Ampat, Sorong, West Papua, Indonesia

[ปักเป้า]

หลังจากผ่านไปหลายวัน เพิ่งมีเวลานั่งทำรูปจากทริปราชาอัมพัต (Raja Ampat) และทบทวนว่าได้พบเจออะไรในทริปนี้บ้าง จะได้คัดเอาเรื่องหนุกๆ น่าตื่นเต้น มาให้พี่ๆน้องๆ ชาวฟรีดอมไดฟ์ ได้อิจฉากัน เอ้ย ไม่ใช่ ได้ตื่นตาตื่นใจด้วย เผื่อปีนี้ปีหน้าจะมีใครสนใจไปดำน้ำที่นี่บ้าง

ทริปนี้เป็นทริปสำรวจพื้นที่ครับ มีผมไปคนเดียว (หลังจากชวนพี่ๆน้องๆ นักดำน้ำมือเก่าๆ หลายท่านแล้ว ปรากฏว่าติดงานติดธุระกันหมด)

ราชาอัมพัต (Raja Ampat) เป็นชื่อหมู่เกาะใหญ่ ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะปาปัว (เกาะปาปัว หรือเกาะนิวกินี คือเกาะใหญ่ -- อันดับสองของโลกรองจากกรีนแลนด์ -- ที่อยู่เหนือประเทศออสเตรเลีย แบ่งเป็นของสองประเทศ ครึ่งตะวันตกเป็นของอินโดนีเซีย ครึ่งตะวันออกเป็นประเทศปาปัวนิวกินี ที่นักดำน้ำมักเขียนกันสั้นๆ ว่า PNG)


(ภาพ West Papua จาก Wikipedia)

หมู่เกาะราชาอัมพัต ประกอบด้วยเกาะใหญ่ 4 เกาะ คือ Waigeo, Batanta, Salawati, และ Misool และเกาะเล็กๆ กระจายอยู่อีกกว่า 1,500 เกาะ


(ภาพ Raja Ampat Islands จาก Wikipedia)

[ปักเป้า]

ทริปนี้ ผมไปกับเรือ Black Manta ... เรือ liveaboard ที่ถือกำเนิดในประเทศไทย แต่ย้ายสัญชาติไปอยู่อินโดนีเซียเรียบร้อยแล้ว



ด้วยความที่เคยดำเนินการในประเทศไทย การดูแลอำนวยความสะดวกต่างๆ เกี่ยวกับอาหาร ที่พัก และการดำน้ำ จึงค่อนข้างดีกว่า เรือสัญชาติอินโดฯแท้ๆ ทั้งยังมีออฟฟิศในไทยด้วย การติดต่อประสานงานต่างๆ ก็ทำได้สะดวก

[ปักเป้า]

เหตุที่ผมต้องไปที่นี่ เพราะได้ยินกิตติศัพท์ร่ำลือถึงความอุดมสมบูรณ์ของปะการังและสิ่งมีชีวิตต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในแนวปะการัง ว่าจัดอยู่ในอันดับที่ 1 ของโลกในปัจจุบัน (จากการสำรวจเมื่อ 4 - 5 ปีก่อน โดยก่อนหน้านั้นสถิติโลกอยู่ที่ปาปัวนิวกินี เพื่อนบ้านนั่นเอง)




และเมื่อได้ดำน้ำที่นี่ ก็ไม่ผิดหวังจริงๆ เพราะสภาพแนวปะการังถือว่าสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่ผมเคยดำน้ำมาเลยทีเดียว ในแต่ละบริเวณ หรือบนก้อนหินแต่ละก้อน มีปะการังหลากหลายชนิดเกิดขึ้น ในแบบที่เรียกว่า สมดุล คือแต่ละชนิดมีจำนวนพอดีๆ ในขณะที่มีจำนวนชนิดมากมายละลานตา (และแน่นอน บางชนิดผมก็ไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นมาก่อน) และเป็นเช่นนี้ในเกือบทุก dive site ที่ได้ไปดำน้ำ

[ปักเป้า]

ลักษณะพื้นที่ดำน้ำที่ผมไปในทริปนี้ ค่อนข้างคล้ายคลึงกับทริปฝั่งอันดามันของบ้านเรามาก มีทั้งแนวลาดข้างเกาะ เหมือนที่หมู่เกาะสิมิลัน, หัวแหลมยื่นเลยออกไปจากแนวหัวเกาะ เหมือนที่หัวเกาะบอน, กองหินริมเกาะ เหมือนเกาะห้าลูกเหนือ, บางที่ก็มีเวิ้งกำแพงหินเหมือน เกาะห้าลูกที่ 4, กองหินใต้น้ำ ที่มีพื้นราบรอบๆ เหมือนกองหินตาชัย และมีกระแสแรงเหมือนๆ กันด้วย

(ไม่อยากใช้คำว่า "ส่วนใหญ่ของที่ Raja Ampat" เพราะพื้นที่ที่ได้ดำน้ำในทริปนี้ ถือว่าเล็กน้อยมาก ผมจึงไม่รู้ว่า ในจุดอื่นมีลักษณะต่างจากที่ผมไปนี้มากน้อยแค่ไหน) จะมีต่างกันบ้างก็จุดที่ไปดู Manta Show นี่แหละครับ ที่ถือว่าเด็ดมาก และไม่เหมือนที่ไหนที่ผมเคยไปมาเลยครับ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังต่อไปครับ

[ปักเป้า]

ในแนวปะการังซึ่งหลากหลายไปด้วยปะการังอ่อน/แข็ง ฟองน้ำ เพรียงหัวหอม นั้น ก็มีสิ่งมีชีวตที่อาศัยอยู่ในแนวปะการัง หลากหลายไปด้วยเช่นกัน ทั้ง ปลิง ดาว เม่น ปลาเล็กปลาน้อย ซึ่งบางชนิดผมก็ไม่คุ้นมาก่อน จนทำให้เข้าใจผิดไปก็หลายตัว

[ปักเป้า]

รวมถึงสัตว์หายากในจุดดำน้ำอื่น แต่ที่นี่กลับหาพบได้ทั่วไป อย่าง Bluering Octopus ที่ผมเจอตั้งแต่ไดฟ์แรก (ที่ยังเตรียมกล้องไม่เรียบร้อย) รวมทั้งทริปก็ 4 - 5 ตัว แต่ทริปนี้ ดูเหมือนดวงผมไม่ค่อยถูกชะตากับเจ้านี่เลย เจอทีไร แบตหมดแล้วทุกที พอเค้นแบตมาถ่ายได้รูปสุดท้าย ก็โฟกัสพลาดซะนั่น เพราะมือสั่น ทำให้กดชัตเตอร์ลึกไปอีก (สงสัยเพราะไม่ได้ถือกล้องใต้น้ำมานานกว่า 2 ปีแล้วด้วยมั้งครับ)



เลยต้องขอยืมภาพถ่ายจาก instructor สาวชาว Singapore ชื่อคุณ Esther มาลงให้ได้ชมกัน ว่าเจอเยอะและมีเวลาถ่ายเหลือเฟือจริงๆ ทริปนี้ดำกันไดฟ์ละ 70 นาทีเป็นอย่างต่ำ เพราะใช้ Nitrox 32% กันเกือบทุกไดฟ์

[ปักเป้า]

จุดเด่นสำคัญของ Raja Ampat คือเจ้าม้าน้ำแคระ (Pygmy Seahorse) ที่เรียกได้ว่า มีทุกจุดที่ลงดำน้ำแหละครับ อยู่ที่ว่าไดฟ์ลีดจะหาให้รึเปล่า หรือไดฟ์นั้นจะไปดูอย่างอื่นกัน

ตัวแรก Pygmy Seahorse Denise


ตัวนี้ Bargibanti


ตัวนี้ก็ Bargibanti แต่สีเหลืองสด


ตัวนี้ Denise


ตัวเดียวกะข้างบนครับ

[ปักเป้า]

ตัวที่เด่น และหายากหน่อย คือ Pygmy Seahorse Pontohi ซึ่งจะเกาะอยู่กับ ไฮดรอยด์ เส้นสั้นๆ ตามโขดหินหรือปะการัง และแน่นอนครับ มักจะในบริเวณที่มีกระแสแรงด้วย

จุดเด่นของเจ้า Pontohi นี้ คือ จะมีจุกและเส้นสีแดงอยู่ตรงหัวกับหลัง



บริเวณรอบๆ ที่เจ้าตัวนี้อาศัยอยู่ แต่เจ้าตัวนี้ไม่ค่อยอยู่นิ่ง ว่ายไปว่ายมา หลบแสงแฟลชนักดำน้ำ ถ่ายให้ชัดได้ยากมาก


เผลอแป๊บเดียว ว่ายไปเกาะกับอีกตัวนึง คู่กันเลย




จริงๆ แล้วรอบๆ กอนี้มี Pontohi อยู่อย่างน้อย 5 ตัว ตามที่ไดฟ์ลีดส่งสัญญาณมือมาบอก แต่ในไดฟ์นั้น ผมได้เห็นแค่ 4 ตัว แต่แค่นี้ก็ดีมากแล้วครับ

==========

เท่าที่ได้คุยกับไดฟ์ลีด ... ที่นี่มี Pygmy Seahorse แทบทุกจุดที่ดำน้ำแหละครับ

พอเริ่มต้นฤดูดำน้ำ ก็มาหากันซักรอบนึง นอกนั้นก็หาเอาหน้างาน คือถ้ามีเวลา และเจอกอกัลปังหาที่ดูเหมาะๆ แวะหาซะหน่อย ก็เจอได้ไม่ยาก (แม้จะมีผิดหวังบ้างก็ตาม)

ในทริปนี้ เจออีกหลายตัว แต่ผมไม่ได้ถ่ายมา หรือบาง dive site ก็เป็นกลุ่มอื่นที่ได้เจอ ... เจอกันจนเบื่อแหละครับ

[ปักเป้า]

หมึกกระดองตัวจิ๋วหลิว ที่ผมเคยเจอทางฝั่งอันดามันบ้านเราอยู่บ้าง ที่นี่เค้าเรียกว่า Pygmy Cuttlefish ครับ ... เจออยู่หลายไดฟ์ทีเดียว ทั้งกลางวัน กลางคืน





รูปถ่ายคู่กับ Smurf นี้เป็นฝึมือของคุณ Esther เช่นเคย (ดำน้ำไปกับ prop ส่วนตัวกันเลยทีเดียว)

[ปักเป้า]

ส่วนเจ้าตัวที่ทำให้ผมตกใจอยู่ 2 - 3 ครั้ง ก็คือ เจ้า Wobbegong หรือฉลามในกลุ่ม Carpet shark นี่เองครับ ที่ส่วนใหญ่จะนอนขี้เซา (มาก) อยู่บนปะการังโต๊ะ หรือใต้โพรงใหญ่ๆ มี Glass fish ว่ายอยู่รอบๆ บังซะมิด แล้วผมดำไปเจอโดยไม่ทันตั้งตัว หรือครั้งนึงที่ว่ายหาที่นอน ผ่านมาใต้ท้องผมพอดี ทำเอาสะดุ้งให้นักดำน้ำคนอื่นหัวเราะก๊ากใต้น้ำกันเลย

[ปักเป้า]

มี night dive นึงที่ประทับใจมาก เราไปเติมน้ำจืดกันที่เกาะเล็กๆ แห่งหนึ่ง ชื่อ Saonek

และที่ท่าเรือหน้าหมู่บ้าน เราได้พบ subject มากมาย นับตั้งแต่
Pygmy Cuttlefish (ตัวข้างบน)
Clown Frogfish คู่หนึ่ง (male & female) อยู่ที่พื้นทรายปลายเชือกทุ่น
Bluering Octopus คู่หนึ่ง (male & female)
Bobtail Squid ขนาดเท่าเป็นถั่วลิสง
Robust Ghostpipefish
Decorated Spidercrab
Cockatoo Waspfish
Pikachu สีขาว (white)
Sponge Crab ที่ถ่ายมายังไงก็ดูไม่ออก ก็เลยไม่เอามาลง
ทากตัวใหญ่
และที่แนวปะการังด้านนึง ยังได้เจอ Juvenile Batfish ขอบส้มสีสด อีก 2 - 3 ตัว

Nitrox 1 ถังที่ความลึก 12 - 20 เมตร กับเวลา 75 นาที มีไม่พอถ่ายรูปจริงๆ

เอามาลงให้ดูแค่ 3 ตัวนะครับ

Clown Frogfish


Robust Ghostpipefish ฝีมือคุณ Esther


Decorated Spidercrab

[ปักเป้า]

นอกจาก Wobbegong, ม้าน้ำแคระ, และปลาฝูงต่างๆ ที่เจอแทบทุกไดฟ์แล้ว ก็มียังมี ปลาสร้อยนกเขา, ปลาผีเสื้อ, ปลาสินสมุทร อีกหลายชนิดที่ไม่คุ้นเคย รวมถึงนโปเลียน ทั้งขนาดใหญ่และขนาดกลาง ที่ได้เจอเกือบทุกไดฟ์ ไดฟ์ละ 1 - 2 ตัวเสมอ กับ Crocodilefish ที่พอมีให้เห็นบ้าง

นโปเลียน ตัวนี้กำลัง cleaning สบายใจเชิ้บๆ ทีเดียว ห่างกันแค่ 2 - 3 เมตรเท่านั้น



เต่า ตัวน้อยๆ ก็เจอได้แทบทุกไดฟ์เช่นกัน แต่ไม่เห็นตัวใหญ่ๆ อย่างที่สิปาดันเลยครับ ... ที่เจอส่วนใหญ่ไม่ถึง 1 เมตร และเจอตัวเป็นเมตรแค่ตัวเดียว นอนอยู่ในโพรง


นกแก้วหัวโหนก มีแทบทุก dive site เช่นกัน เจอเดี่ยวบ้าง ฝูงบ้าง วัยเด็กบ้าง

[ปักเป้า]

ปลาส่วนใหญ่ที่เจอ มีแนวโน้มจะไม่กลัวคนมาก คือพอจะเข้าใกล้ได้มากกว่าที่เคยเจอในบ้านเราหรือสิปาดัน (สงสัยจะยังไม่รู้พิษสงของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า คน ละมั้ง ) มีอยู่ครั้งนึง ที่โดนฝูงบาราคูด้าว่ายตัดหน้า จนต้องรอให้เค้าไปให้หมดฝูงก่อน ค่อยเดินหน้าต่อ

ที่ขัดใจอยู่บ้าง ก็เจ้าฉลามครีบดำ ครีบขาว นี่แหละครับ ที่ไม่รู้จะกลัวคนไปทำไป ว่ายอยู่แต่นอกกอง เห็นกันไกลๆ ใกล้สุดก็ซัก 10 เมตรมั้งครับ ... ที่ผิดหวัง ก็เพราะคาดหวังว่าจะได้เจอฉลามเป็นฝูงๆ แต่กลับได้เจอแต่แบบเดี่ยวๆ แค่ 3 - 4 ไดฟ์

ชมรูปปลาฝูงกันก่อนครับ

ตัวนี้เป็น Yellow-spotted Trevally ครับ อย่าสับสนกับ Golden Trevally นะครับ










แม้ผมจะได้เจอฝูงกะมงตาโต (Bigeye trevally) ฝูงใหญ่ขนาดที่สิปาดัน เพียงแค่จุดเดียว แต่ในจุดอื่นๆ ก็มีฝูงปลากะมง และปลาฝูงอื่นๆ อย่างกะพงเล็กและปลากล้วย ขนาดฝูงกลางๆ อยู่แทบทุกจุดเช่นกัน





ส่วนบาราคูด้า ส่วนใหญ่ที่เจอจะเป็นฝูงเล็กๆ 100 - 300 ตัว ... ฝูงใหญ่ๆ ที่เจอหลักพันตัว ก็มีบ้าง หรือเป็นแบบขนาดฝูงกลางๆ ว่ายแยกฝูงแยกชนิดกัน อยู่ในบริเวณเดียวกัน ... ไม่เจอฝูงเดียวเป็นหมื่นตัวอย่างที่สิปาดัน



เหตุผลหนึ่งที่ dive guide บอกมาก็คือ ช่วงที่เราไปเป็นช่วงน้ำไม่มีกระแส ทำให้ฝูงปลาไม่ค่อยออกมาโชว์ตัวเท่าไหร่ ซึ่งก็คงจริงอย่างว่าแหละครับ เพราะดูทำเลแล้ว หลายที่กระแสน่าจะแรงกว่านี้ แต่ทริปนี้เจอกระแสแรงๆ แค่วันละไดฟ์เดียวเท่านั้น และในไดฟ์เหล่านั้นก็จะได้ตื่นตะลึงกับฝูงปลาจำนวนมาก

[ปักเป้า]

ที่ออกมาโชว์ตัวได้อย่างสนุกสนาน ประทับใจไม่ลืม ก็คือ ฝูงแมนต้า มากกว่า 15 ตัว ที่ Manta Sandy (หรือที่เรือ Black Manta เรียกว่า Manta Spa) ล่ะครับ ... ดูกันจุใจ ว่ายโชว์กันทุกท่วงท่า ทุกรูปแบบ ในน้ำอุณหภูมิสบายๆ 29c - 30c

ตั้งแต่วินาทีแรกที่ลังกาหลังลงน้ำไป ก็ได้เห็นทิวแถวแมนต้า ซ้ายขวา ข้างละไม่ต่ำกว่า 5 ตัว กำลังโฉบเข้ามายังสถานีทำความสะอาด (cleaning station) ... โชคดีอะไรเช่นนี้

เปิดกล้องไม่ทันครับ ไม่ได้ภาพนั้น แต่ไม่เป็นไร เพราะตลอด 2 ชม. ครึ่ง ใน 2 ไดฟ์ ไม่มีวินาทีไหน ที่ไม่เห็นแมนต้าอยู่ในสายตาเลย ... และฉาก Manta Ray ตั้งแถว โฉบเข้ามายัง cleaning station เกิดขึ้นหลายรอบ จนไม่ต้องนับ



ถ่ายรูปกันได้ไม่มีหยุด มีทั้งแบบกลุ่ม แบบตีวง

[ปักเป้า]

และแบบเดี่ยว แต่ก็ล้นจอซะหลายรูป เพราะอยู่ใกล้เกินไป และถอยไม่ทัน







ถ่ายได้หลายมุม หลายตำแหน่ง



จนเบื่อๆ ไดฟ์หลัง ผมเลยไปถ่ายรูปปลาประเภทอื่นตามปะการังแถวนี้บ้าง



และพบว่าเข้าใกล้ได้ง่าย ยิ่งถ้าเข้าไปแบบช้าๆ จะเข้าใกล้ได้มากเลยทีเดียว



บางจังหวะ บางตัวก็นอนนิ่งทำความสะอาดอย่างสบายใจ ปล่อยให้เพื่อนๆ โฉบผ่านมา แล้วผ่านไป โดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น