ประเภทการดำน้ำ | Deep dive, Wreck dive, Drift dive |
---|---|
ระดับการดำน้ำ | Advance Open Water |
ความลึก | 25-30 เมตร |
กระแสน้ำ | น้อย-แรง |
สิ่งที่น่าสนใจ | เกาะดอกไม้ ที่แนวลาดของเกาะทางทิศตะวันตก มีความลึกประมาณ 30 เมตร มีโอกาสที่จะได้พบกับ leopard sharks และ grey reef sharks หรือแม้แต่ ฉลามวาฬ (Whale sharks) ก็ยังมีนักดำน้ำพบได้ที่นี่เช่นกัน อย่างไรก็ตาม เกาะดอกไม้เป็นจุดดำน้ำที่เหมาะกับนักดำน้ำที่ชื่นชอบสัตว์ขนาดเล็ก (small critters) เช่น ม้าน้ำ (seahorses) Ornate Ghost Pipefish และ Harlequin Ghost Pipefish นักดำน้ำจึงควรมีไฟฉายติดตัวไปเพื่อส่องหาสิ่งมีชีวิตเล็กๆตามซอกหินด้วยก็จะเป็นเรื่องดีหากสังเกตตามซอกหินจะพบเห็นกุ้งนักมวย (Boxer shrimps) ได้เกือบตลอดเวลา บางครั้งเราอาจพบปลาไหลมอเรย์กำลังอ้าปากให้กุ้งทำความสะอาดฟัน โดยกุ้งเหล่านี้จะกินเศษอาหารจากปากของปลาไหล ซึ่งถือเป็นการอยู่ร่วมกันแบบพึ่งพาอาศัยกันตามธรรมชาติที่พบเห็นได้ไม่บ่อยนัก หรือบางครั้งหากคุณเอามือวางไว้นิ่งๆใกล้ๆกุ้งพวกนี้ ถ้าโชคดีกุ้งจะออกมาไต่ตามมือของคุณก็ได้ นอกจากนี้อาจพบเห็นมอเรย์ตาขาวมากกว่า 1 ตัวอาศัยอยู่ในรูเดียวกันก็เป็นได้บริเวณรอบๆฟองน้ำครก (barrel sponges) มักจะพบปลาสิงโตและปลาแมงป่อง และบางครั้งหากเรามองตามซอกหินอาจพบกับ Bamboo sharks และหากสังเกตดีๆก็อาจเห็น Octopus ซ่อนอยู่ในแนวปะการัง หากมองไปบนผิวน้ำก็มักจะพบกับฝูง Crocodile longtoms ว่ายรวมกลุ่มกันอยู่เสมอ ........................................................................................................................................ เรือจมคิงครุยเซอร์ สิ่งมีชีวิตที่น่าสนใจ ได้แก่ ฝูงปลากระพง, fusilier, trevally และ yellow tail barracuda นอกจากนี้ยังมีปลาสิงโตขนาดใหญ่, Bamboo sharks, Moray eels, scorpionfish และ hawksbill turtle ........................................................................................................................................ หินมูสัง (Shark Point) บริเวณกองแรกมักจะพบปลากะรังขนาดใหญ่, emporer angelfish, lionfish และ bearded scorpionfish ส่วนบริเวณกองที่สองจะปกคลุมไปด้วยปะการังอ่อนสีสันสวยงาม, ดอกไม้ทะเล, barrel sponges และ sea fans ขนาดใหญ่ และมักจะพบฝูงปลาเล็กปลาน้อยจำนวนมาก ตลอดจน boxer shrimps, hingebeak shrimps และ hermit crabs นอกจากนี้ยังพบ blue striped snapper, fusilier, surgeonfish, soldierfish, Triggerfish, parrotfish, Moorish Idols, sweetlips และ bannerfish ได้ไม่ยากนัก |
เกาะดอกไม้
เป็นเกาะหินปูนขนาดเล็กที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมาเป็นรูปหน้าผาสูงในท้องทะเล ห่างจากเกาะภูเก็ตไปทางทิศตะวันออกเพียง 20 กิโลเมตร เกาะดอกไม้เป็นจุดดำน้ำแบบ Wall Dive ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของสิ่งมีชีวิตทางทะเลมากมาย นักดำน้ำจะได้พบกับสิ่งมีชีวิตหลากหลายที่อาศัยตามซอกหินปูนตลอดแนวของตัวเกาะ อาทิเช่น ปะการังอ่อนที่สมบูรณ์และมีสีสันสวยงาม กัลปังหาขนาดใหญ่ ดอกไม้ทะเลสีต่างๆ ม้าน้ำ ปักเป้า มอเรย์ตาขาว ปลาสิงโต กัลปังหา หรือทากเปลือยหลายสายพันธุ์ หอยหลายชนิด เป็นต้น นอกจากนี้ยังเป็นไดฟไซต์ที่นักดำน้ำนิยมมาดำน้ำตอนกลางคืน (night dive) อีกด้วย ทางด้านตะวันออกของเกาะดอกไม้จะมีถ้ำขนาดใหญ่ สามารถว่ายเข้าไปด้านในได้ (นักดำน้ำควรมีไฟฉายไปด้วย) ถ้ำนี้เป็นถ้ำขนาดใหญ่มีแสงสว่างจากธรรมชาติพอส่องถึง มองขึ้นไปข้างบนจะเห็นฟองอากาศบนเพดานถ้ำ มักจะพบ ghost pipefish และม้าน้ำที่บริเวณผนังถ้ำ นอกจากนี้จะพบถ้ำขนาดเล็กอยู่ด้านหลัง ซึ่งนักดำน้ำไม่ควรเข้าไปโดยเด็ดขาด นอกจากจะเป็นนักดำน้ำผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกฝนพิเศษและมีอุปกรณ์ที่เหมาะสม
..................................................................................................................................................
เรือจมคิงครุยเซอร์
King Cruiser เป็นเรือโดยสารแบบ Hulled Catamaran มีขนาดยาว 85 เมตร เดิมเป็นเรือเฟอร์รี่ของญี่ปุ่น และถูกซื้อต่อโดย บริษัท ส่งเสริม ในปี 1990 นำมาใช้เป็นเรือรับส่งสินค้าและผู้โดยสารข้ามฝากระหว่างเกาะพีพีกับภูเก็ต ทุกวันเป็นเวลา 7 ปี จนกระทั่งในในวันที่ 4 พฤษภาคม 2540 ขณะที่เรือบรรทุกผู้โดยสารทั้งหมด 539 คนและลูกเรือ 22 คนเดินทางไปเกาะพีพีได้เกิดอุบัติเหตุชนกับหินโสโครก ทำให้ตัวเรือเกิดความเสียหาย น้ำทะลักเข้าเรืออย่างรวดเร็ว และจมลงที่ในที่สุด ในเหตุการณ์ครั้งนี้สามารถช่วยชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือได้ทั้งหมด โดยไม่มีการสูญเสียชีวิตแต่อย่างใด มีเพียงตัวเรือที่จมลงไปที่ความลึก 32 เมตร และกลายมาเป็นจุดดำน้ำเรือจมที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่ง
บริเวณซากเรือจม King Cruiser ปกคลุมด้วยฟองน้ำ ปะการังอ่อนหลากสีสัน และฝูงปลามากมาย อาทิเช่น ปลาเก๋า ปลากระพงข้างเหลือง เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถพบเห็นทากเปลือยได้ไม่ยากนัก เหมาะกับนักดำน้ำที่ชอบการผจญภัย และมีประสบการณ์ดำน้ำในระดับ Advanced Open Water ขึ้นไป เนื่องจากซากเรือจมในน้ำอยู่ที่ความลึก 32 เมตร ในตำแหน่งตั้งตรง จุดที่ตื้นที่สุดบริเวณดาดฟ้าเรืออยู่ที่ความลึกประมาณ 17เมตร และเนื่องจากบริเวณนี้มีกระแสน้ำที่รุนแรงบ่อยครั้ง จุดดำน้ำแห่งนี้จึงไม่เหมาะกับนักดำน้ำมือใหม่ การดำน้ำที่นี่จึงเป็นการดำน้ำที่เวลาสั้นกว่าปกติ เพราะนักดำน้ำบางคนอาจมีอากาศไม่เพียงพอ การมองเห็นใต้น้ำไม่ดีนัก และต้องคอยระมัดระวังกับชิ้นส่วนเรือที่คมและผุกร่อน เสี่ยงกับการยุบตัว จึงไม่แนะนำให้นักดำน้ำเข้าไปสำรวจในตัวเรือ เนื่องจากโครงสร้างของเรือได้ทรุดตัวลงด้วยตัวของมันเองและสนิมที่กัดเกาะอยู่กับเหล็กก็หลุดออกและทำให้พังทลายลงไปค่อนข้างมาก
..................................................................................................................................................
หินมูสัง (Shark Point)
ตั้งอยู่ระหว่างเกาะภูเก็ตและเกาะพีพี ห่างจากเกาะภูเก็ต 26 Km. ใช้เวลาในการเดินทาง 1 ชั่วโมง 30 นาที เป็นจุดที่นักดำน้ำมักจะพบฉลามกบและฉลามเสือดาวกันมากจึงตั้งชื่อว่า Shark point
กองหินมูสัง มีลักษณะเป็นกองหินใต้น้ำขนาดใหญ่ 3 กองเชื่อมต่อกันจากทิศเหนือไปทิศใต้ กองที่อยู่เหนือสุดโผล่พ้นน้ำขึ้นมาประมาณ 2-3 เมตรและมีประภาคารตั้งอยู่ กองที่สองอยู่ทางทิศใต้ห่างออกไปประมาณ 20 เมตร ระหว่างกองเป็นพื้นทรายลึก 18 เมตร ปกตินักดำน้ำจะลงดำน้ำเที่ยวชมแค่สองกองแรกเท่านั้น
ที่มา : thailandliveaboard.com, bluemarine-divers
การเดินทางโดยรถยนต์ จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางสายธนบุรี-ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข 35) แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ผ่านจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา ข้ามสะพานสารสิน เข้าจังหวัดภูเก็ต ระยะทาง 862 กิโลเมตร
รถโดยสารประจำทาง บริษัท ขนส่ง จำกัด มีรถโดยสารทั้งรถธรรมดา และรถปรับอากาศ ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ ไปภูเก็ตทุกวัน
รถไฟ ไม่มีบริการรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปภูเก็ตโดยตรง หากต้องการเดินทางโดยรถไฟต้องไปลงที่สถานีรถไฟพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี แล้วต่อรถประจำทางเข้าจังหวัดภูเก็ต
เครื่องบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) มีเที่ยวบินกรุงเทพฯ - ภูเก็ตทุกวัน