Mikomoto

Mikomoto
ประเภทการดำน้ำ drift dive
ระดับการดำน้ำ experienced divers
ความลึก 25-30 m
ทัศนวิสัยใต้น้ำ 20-30 m
กระแสน้ำ Strong
อุณหภูมิน้ำ - ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน อุณหภูมิของน้ำจะอยู่ระหว่าง 20-25°C
- ระหว่างเดือนเมษายนถึงมิถุนายน และระหว่างเดือนตุลาคมถึงธันวาคม อุณหภูมิของน้ำจะอยู่ระหว่าง 16-20°C
ฤดูท่องเที่ยว ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการพบฉลามหัวค้อนคือเดือนมิถุนายนถึงตุลาคม โดยทั่วไปถือว่าเป็นช่วงฤดูร้อน น้ำอุ่นขึ้น จึงเป็นช่วงที่มีโอกาสเจอฉลามหัวค้อนมากที่สุด
สิ่งที่น่าสนใจ ฝูงฉลามหัวค้อน, ฉลามทราย, ฉลามหูดำ, กระเบนนก, ปลากะรัง นอกจากนี้ยังสามารถพบเห็นฝูงปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลากระพงแดง, ปลากระพงแดงญี่ปุ่น และปลากะพงขาว

ข้อมูลทั่วไป


เกาะมิโคโมโตะ (Mikomoto Island) เป็นเกาะเล็กๆที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ มีเพียงประภาคาร (Mikomotojima Lighthouse) ซึ่งเป็นประภาคารหินที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงใช้เป็นเครื่องหมายบ่งบอกตำแหน่งระหว่างทางเข้าอ่าวซากามิ (Sagami Bay) และอ่าวซูรูกะ (Suruga Bay) ของนักเดินเรือ ตัวเกาะตั้งอยู่นอกชายฝั่งห่างจากคาบสมุทรอิซุ (Izu Peninsula) จังหวัดชิซูโอกะ (Shizuoka) ของประเทศญี่ปุ่นไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 10 กม. หรือนั่งเรือไปเพียง 15-20 นาทีเท่านั้น

เกาะมิโคโมโตะเป็นแหล่งดำน้ำที่มีความหลากหลายของสัตว์น้ำขนาดใหญ่จำนวนมาก เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากกระแสน้ำคุโรชิโอะ (Kuroshio Current) ซึ่งเป็นกระแสน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกไหลผ่าน ทำให้มีกระแสน้ำค่อนข้างเชี่ยวกราก เป็นจุดเดินเรือที่ยากลำบากจุดหนึ่งของญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ชาวประมงและนักตกปลาขนาดใหญ่

เนื่องจากอิทธิพลของกระแสน้ำคุโรชิโอะ ที่ไหลจากมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออกตามแนวเส้นศูนย์สูตร ส่วนหนึ่งเปลี่ยนทิศทางไปทางเหนือของประเทศฟิลิปปินส์ กลายเป็นกระแสน้ำคุโรชิโอะ และบางส่วนไหลไปทางตะวันออกเฉียงเหนือผ่านชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น ซึ่งกระแสน้ำนี้จะพัดพาน้ำอุ่นจากทางใต้มาด้วย ทำให้เกาะมิโกโมโตะถือเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในการสังเกตฉลามในแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติในระดับโลก มักพบเห็นฉลามหัวค้อนฝูงใหญ่และฉลามชนิดอื่นๆได้เกือบตลอดทั้งปี โดยปกติแล้ว อุณหภูมิของน้ำจะเริ่มสูงขึ้นระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน ดังนั้น การดำน้ำในช่วงเวลานี้จึงมีโอกาสพบเห็นฝูงฉลามหัวค้อนได้ค่อนข้างมาก (ฉลามหัวค้อนชอบน้ำอุ่นที่มีอุณหภูมิมากกว่า 20℃) แต่อย่างไรก็ตาม นักดำน้ำที่ต้องการมาดำน้ำที่นี่ควรเป็นนักดำน้ำที่มีประสบการณ์ในการดำน้ำแบบ drift dive และควรมีทักษะการลอยตัวที่ดีด้วย เพราะมีโอกาสพบเจอกับการไหลที่ค่อนข้างแรงได้บ่อยครั้ง

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Mikomoto:

  • ความลึก: โดยทั่วไปจุดดำน้ำที่ Mikomoto มีความลึกตั้งแต่ 20-40 เมตร ซึ่งค่อนข้างลึก และต้องการทักษะการดำน้ำขั้นสูง
  • กระแสน้ำ: กระแสน้ำในบริเวณนี้มักจะค่อนข้างแรง ทำให้นักดำน้ำต้องมีความพร้อมและประสบการณ์
  • สภาพอากาศ: ฤดูที่ดีที่สุดในการดำน้ำคือช่วงเดือนมิถุนายนถึงพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่ฉลามหัวค้อนปรากฏบ่อยที่สุด

นอกจากนี้ยังสามารถพบกับปะการังอ่อน ปลาในแนวปะการัง และซากเรือจมที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ถ้าคุณชอบการดำน้ำในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย Mikomoto เป็นอีกจุดที่ไม่ควรพลาด!

ข้อควรระวังสำหรับการดำน้ำ

  • กระแสน้ำค่อนข้างแรงและผันผวน นักดำน้ำควรที่ทักษะการลอยตัวที่ดี (มาก) และสามารถทำ safety stop ได้ด้วยตัวเอง เนื่องจากไม่มีเชือกให้จับ
  • นักดำน้ำควรมี SMB และ Dive computer เป็นของตัวเอง
  • dive time ประมาณ 30 นาที หรือเมื่อนักดำน้ำมีอากาศเหลือ 70 bar
  • ไม่ควรอยู่ห่าง dive leader มากเกินไป


จุดดำน้ำ (รายละเอียด)

Kame-ne
หรืออาจเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "Point A" เป็นจุดดำน้ำหลักที่นิยมมาดูฉลามหัวค้อน นอกจากนี้ก็ยังมีโอกาสพบเจอสัตว์อื่นๆด้วย เช่น white-eye sharks, wahoo fish และสัตว์น้ำขนาดใหญ่อื่นๆด้วย 


Mitsu-ne
เป็นกลุ่มหินสามก้อนที่โผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำ มีฝูงปลาข้างเหลืองและเต่าตนุจำนวนมากอาศัยอยู่รอบๆ เป็นจุดดำน้ำที่ดีสำหรับปลาอพยพ และนอกจากนี้ยังมีโอกาสพบเห็น greater amberjack, Japanese amberjack, threeline grunt, and yellowstriped butterfish

Shira-ne
เป็นจุดดำน้ำที่มีความลึกไม่มากนักและน้ำค่อนข้างสงบ อยู่บริเวณทิศตะวันออกของเกาะมิโคโมโตะ ซึ่งมีความลึกไม่มากนัก พื้นทะเลเป็นทรายราบมีหินบางส่วน สัตว์น้ำที่มีโอกาสพบในบริเวณนี้ ได้แก่ ปลาชนิดต่าง ๆ เช่น Flatfish, Stingray, Japanese bullhead shark, Japanese angelshark, Asian sheepshead wrasse นอกจากนี้ยังมีเรืออัปปางอยู่ใกล้เคียงอีกด้วย

Zabu-ne
เป็นจุดดำน้ำที่น่าสนใจแห่งหนึ่งในเกาะมิโคโมโตะ โดยมีชื่อเรียกมาจากลักษณะของคลื่นที่ซัดเข้าใส่โขดหินอยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดเป็นทัศนียภาพที่สวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจ บางครั้งก็นิยมดำน้ำแบบ drift dive จาก Zabu-ne ไปยัง Kame-ne

Enokuchi
จุดดำน้ำนี้อยู่ทางด้านตะวันตก เป็น "ประตูหน้า" ของเกาะมิโคโมโตะ แม้จะได้รับผลกระทบจากกระแสน้ำขึ้นน้ำลง แต่กระแสน้ำภายในพื้นที่มักสงบ เหมาะสำหรับนักดำน้ำที่มีประสบการณ์น้อย แต่ก็ควรระมัดระวังเนื่องจากมีเรือประมงอยู่ใกล้ๆ จึงไม่ควรเข้าใกล้เกาะมากเกินไป เป็นจุดดำน้ำที่ค่อนข้างสงบ น้ำไม่ลึกมาก แต่เมื่อออกไปไกลขึ้นเล็กน้อย น้ำจะลึกขึ้นมาก สัตว์น้ำที่พบในบริเวณนี้ ได้แก่ snappers, rockfish และ hawksbill wrasseได้ตลอดปี 

 

 

การเดินทาง

เส้นทางมายัง Mikomoto ที่สะดวกที่สุดคือ ควรเริ่มต้นจากโตเกียว แล้วนั่งรถไฟมายังสถานี Izukyū-Shimoda หรืออาจจะใช้วิธีเช่ารถขับมาก็ได้

การเดินทางมายังShizuoka

การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดชิซูโอกะ สามารถบินไปลงที่สนามบินนานาชาติโตเกียว (Narita - NRT หรือ Haneda - HND) หรือสนามบินนานาชาติชูบุ (Chubu Centrair - NGO) ที่นาโกย่า แล้วเดินทางต่อโดยรถไฟหรือรถบัส

การเดินทางภายในญี่ปุ่น:

  • รถไฟชินคันเซ็น: จากโตเกียว สามารถนั่งรถไฟ Tokaido Shinkansen ไปลงสถานี Atami แล้วต่อรถไฟท้องถิ่น Izukyu Line เพื่อไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ บนคาบสมุทรอิซุ
  • รถไฟ Odoriko Express: เป็นรถไฟด่วนพิเศษจากโตเกียวที่วิ่งตรงไปยังสถานี Izukyu-Shimoda
  • รถยนต์ส่วนตัว/รถเช่า: การเช่ารถขับเองเป็นทางเลือกที่สะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการเดินทางระหว่างจุดดำน้ำต่างๆ

ข้อมูลการบิน

มีสายการบินหลายสายให้บริการเส้นทางกรุงเทพฯ - โตเกียว เช่น การบินไทย, เจแปนแอร์ไลน์, ออลนิปปอนแอร์เวย์, ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ และอื่นๆ
  • สนามบินนานาชาติโตเกียว (Narita - NRT / Haneda - HND): เป็นสนามบินหลักที่ใกล้ที่สุดและมีเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ มากที่สุด
  • สนามบินภูเขาฟูจิชิซูโอกะ (Mt. Fuji Shizuoka Airport - FSZ): เป็นสนามบินภายในประเทศขนาดเล็ก ซึ่งอาจมีเที่ยวบินระหว่างประเทศบางเส้นทาง แต่ปกติแล้วเที่ยวบินจากไทยมักจะลงจอดที่สนามบินโตเกียว

ที่พักระหว่างทาง

  • โรงแรม/เรียวกัง: มีที่พักหลากหลายประเภทให้เลือก ทั้งโรงแรมและเรียวกัง (Ryokan) ซึ่งเป็นที่พักสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมพร้อมบ่อน้ำพุร้อน (Onsen) ให้บริการในราคาที่แตกต่างกันไป
  • การจอง: ควรจองที่พักล่วงหน้า โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาวหรือช่วงเทศกาล

การรักษาพยาบาล

  • โรงพยาบาล: มีโรงพยาบาลและคลินิกทั่วไปกระจายอยู่ในเมืองใหญ่และเมืองเล็กๆ บนคาบสมุทรอิซุ เช่น Shimoda Hospital
  • การประกันการเดินทาง: สิ่งสำคัญมาก: ควรซื้อประกันการเดินทางที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบาดเจ็บจากการดำน้ำหรือกิจกรรมทางน้ำ เนื่องจากค่ารักษาพยาบาลในญี่ปุ่นค่อนข้างสูง
  • การขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน: ในกรณีฉุกเฉิน ให้โทรแจ้งเบอร์ 119 สำหรับรถพยาบาลและเจ้าหน้าที่ดับเพลิง หรือเบอร์ 110 สำหรับตำรวจ