เกาะดอกไม้

ประเภทการดำน้ำ - Wall Dive : ดำน้ำเลียบกำแพงหินใต้น้ำที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิต 
- Macro Photography (การถ่ายภาพมาโคร): สวรรค์ของนักถ่ายภาพสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก 
- Drift Dive (ดำน้ำตามกระแสน้ำ): อาจมีกระแสน้ำในบางช่วงเวลา 
- Reef Dive : ดำน้ำตามแนวปะการังรอบๆเกาะ
ระดับการดำน้ำ เหมาะสำหรับนักดำน้ำตั้งแต่ระดับ Beginner (Open Water Diver) ไปจนถึง Advanced Diver เนื่องจากมีทั้งส่วนตื้นที่ง่ายต่อการสำรวจ และส่วนลึกที่มีกระแสน้ำเล็กน้อยซึ่งเหมาะสำหรับนักดำน้ำที่มีประสบการณ์
ความลึก 25-30 เมตร หรือมากกว่า
ทัศนวิสัยใต้น้ำ โดยปกติทัศนวิสัยอยู่ที่ 10-30 เมตร ขึ้นอยู่กับกระแสน้ำและฤดูกาล
กระแสน้ำ กระแสน้ำที่จุดดำน้ำเกาะดอกไม้สามารถมีได้ตั้งแต่ กระแสน้ำอ่อนไปจนถึงกระแสน้ำค่อนข้างแรง (Moderate to Strong) ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของวันและปัจจัยทางธรรมชาติ เช่น กระแสน้ำขึ้น-น้ำลง ดังนั้น การดำน้ำที่นี่จึงอาจมีลักษณะเป็นแบบ Drift Dive (ดำน้ำตามกระแสน้ำ)
อุณหภูมิน้ำ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 28 - 30 องศาเซลเซียส
ฤดูท่องเที่ยว สามารถดำน้ำได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน ในช่วงเวลานี้ ท้องฟ้าจะแจ่มใส ทะเลสงบ และทัศนวิสัยใต้น้ำดีเยี่ยม ทำให้มองเห็นสัตว์ทะเลได้อย่างชัดเจน
 - ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: เดือนพฤศจิกายน- เดือนเมษายน 
 - ช่วงมรสุม: เดือนพฤษภาคม - เดือนตุลาคม อาจมีคลื่นลมแรงและทัศนวิสัยใต้น้ำลดลง แต่นักดำน้ำยังสามารถดำน้ำได้ตามปกติ
สิ่งที่น่าสนใจ  - สัตว์ทะเลขนาดเล็ก (Macro Life): ปลาจิ้มฟันจระเข้ (Ornate Ghost Pipefish), ปลามังกรน้อย (Seamoths), ทากเปลือย (Nudibranchs), กุ้งตัวตลก (Harlequin Shrimp), ม้าน้ำหางเสือ (Tiger Tail Seahorse) 
- ปลาขนาดกลาง:
ปลาหิน (Stonefish), ปลาสิงโต (Lionfish), ปลาแมงป่อง (Scorpionfish), ปลากระเบน, และปลาไหลมอเรย์ (Moray Eel)
 - สัตว์ขนาดใหญ่ (อาจพบได้): ฉลามเสือดาว (Leopard Shark), ฉลามครีบดำ (Blacktip Reef Shark), และในบางครั้งอาจมีโอกาสพบฉลามวาฬ (Whale Shark)

ข้อมูลทั่วไป

เป็นเกาะหินปูนขนาดเล็กที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมาเป็นรูปหน้าผาสูงในท้องทะเล ห่างจากเกาะภูเก็ตไปทางทิศตะวันออกเพียง 20 กิโลเมตร เกาะดอกไม้เป็นจุดดำน้ำแบบ Wall Dive ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของสิ่งมีชีวิตทางทะเลมากมาย นักดำน้ำจะได้พบกับสิ่งมีชีวิตหลากหลายที่อาศัยตามซอกหินปูนตลอดแนวของตัวเกาะ อาทิเช่น ปะการังอ่อนที่สมบูรณ์และมีสีสันสวยงาม กัลปังหาขนาดใหญ่ ดอกไม้ทะเลสีต่างๆ ม้าน้ำ ปักเป้า มอเรย์ตาขาว ปลาสิงโต กัลปังหา หรือทากเปลือยหลายสายพันธุ์ หอยหลายชนิด เป็นต้น


จุดดำน้ำ (รายละเอียด)

  • Main Wall: เป็นกำแพงแนวตั้งที่สวยงาม ปกคลุมด้วยปะการังอ่อนสีสันสดใส, กัลปังหา, และฟองน้ำ
  • Caves: มีถ้ำเล็กๆ สองแห่งทางด้านเหนือและด้านตะวันออกของเกาะ ภายในเต็มไปด้วยกุ้งมังกร, กุ้งพยาบาล, และปู ซึ่งสามารถเข้าไปชมได้ง่ายและปลอดภัย
  • ด้านทิศตะวันออก: เป็นแนวลาดลง มีปะการังเขากวางและก้อนหินมากมาย เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการค้นหาสัตว์เล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่

การเดินทาง

นักท่องเที่ยวสามารถมาได้ทั้งแบบ one day trip และ Liveaboard โดย one day trip มักเดินทางออกจากภูเก็ต และดำน้ำจำนวน 3 ไดฟ์ คือ เรือจม หินมูสัง และเกาะดอกไม้ โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งบริษัทมักมีบริการรับส่งจากโรงแรมในภูเก็ต

ส่วนการเดินทางแบบ Liveaboard จุดดำน้ำเหล่านี้มักรวมอยู่ในเส้นทางอันดามันใต้ ซึ่งแต่ละทริปอาจมีจุดดำน้ำแตกต่างกันเล็กน้อยตามความเหมาะสมและสภาพอากาศ

 ภูเก็ต

การเดินทางมายังภูเก็ต

เครื่องบิน ปัจจุบันมีเที่ยวบินตรงภายในประเทศจากกรุงเทพฯ เชียงใหม่ เกาะสมุย และอีกหลายจังหวัดทั่วไทย และบินตรงจากต่างประเทศอีกนับสิบประเทศ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง เกาหลีใต้ ลอนดอน แฟรงก์เฟิร์ต บาหลี ซิดนีย์ และปารีส เป็นต้น

หากท่านไม่สามารถบินตรงจากประเทศของท่านมายังภูเก็ตได้ ก็สามารถบินมายังกรุงเทพฯ แล้วเลือกเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ สู่ภูเก็ตที่มีให้เลือกกว่า 50 เที่ยวบินต่อวัน ด้วยระยะเวลาการเดินทางเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น

รถยนต์ จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางสายธนบุรี-ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข 35) แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ผ่านจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา ข้ามสะพานสารสิน เข้าจังหวัดภูเก็ต ระยะทาง 862 กิโลเมตร

รถโดยสารประจำทาง มีรถโดยสารทั้งรถธรรมดา และรถปรับอากาศ ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ ไปภูเก็ตทุกวัน

ไม่มีบริการรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปภูเก็ตโดยตรง หากต้องการเดินทางโดยรถไฟต้องไปลงที่สถานีรถไฟพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี แล้วต่อรถประจำทางเข้าจังหวัดภูเก็ต

ข้อมูลการบิน

สนามบิน: ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต (Phuket International Airport - HKT) มีเที่ยวบินตรงทั้งจากกรุงเทพฯ และสนามบินหลักอื่นๆ ในประเทศ รวมถึงเที่ยวบินตรงจากต่างประเทศ


ที่พักระหว่างทาง

สามารถพักในพื้นที่ต่างๆ ของภูเก็ตได้หลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ที่พักราคาประหยัดไปจนถึงรีสอร์ทหรูหรา โดยพื้นที่ที่สะดวกสำหรับการเดินทางไปท่าเรืออ่าวฉลองได้แก่ ฉลอง (Chalong), ราไวย์ (Rawai), กะตะ (Kata) และกะรน (Karon)


การรักษาพยาบาล

โรงพยาบาล 3 แห่งในภูเก็ตที่ให้บริการห้องปรับความดันบรรยากาศสูง (Hyperbaric Chamber) ได้แก่