พยากรณ์อากาศ เพื่อการดำน้ำ
เพื่อให้นักดำน้ำเตรียมตัว เตรียมความพร้อมในการไปดำน้ำ เราจึงควรรู้ถึงสภาพอากาศในพื้นที่ที่เราจะไปดำน้ำเสียก่อน ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการคาดการณ์สภาพอากาศ FreedomDIVE ได้ทำลิงก์มาจาก WindGuru และ WindFinder ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ผู้เขียน ได้ติดตามความแม่นยำในการคาดการณ์อากาศล่วงหน้ามาเป็นเวลาหลายปี จึงได้แนะนำต่อให้ผู้อ่าน ได้นำไปใช้ในการคาดการณ์อากาศในพื้นที่ที่ต้องการไปดำน้ำได้ล่วงหน้า ในเว็บนี้จะแสดงข้อมูลล่วงหน้าได้เพียง 3-4 วัน แต่ทุกท่านสามารถดูล่วงหน้าได้ 7 วัน โดยการคลิกเข้าไปที่เว็บโดยตรงของผู้ให้บริการข้อมูล
คำอธิบายความหมายต่างๆ ที่เขียนไว้ด้านล่างนี้ เป็นคำอธิบายเพื่อใช้ในการคาดการณ์สภาพอากาศเพื่อการดำน้ำเท่านั้น ไม่อาจนำไปใช้อ้างอิงทางวิชาการใดๆ ได้
คลิกเมนูขวามือ เพื่อเลือกพื้นที่พยากรณ์อากาศ >>>
มารู้จักกับสัญลักษณ์ และการอ่านแผนภาพกันก่อน
ในแผนภาพการพยากรณ์คลื่นลม จะประกอบด้วย สี ตัวเลขแสดงความเร็วลม ความสูงคลื่น และทิศทางลม เราจะนำตัวเลขเหล่านี้ไปเป็นข้อมูลสำหรับการคาดการณ์สภาพอากาศ สภาพท้องทะเล ในวันที่เราไปดำน้ำได้ โดยสิ่งที่เราต้องดูคือ
Wind speed บอกถึงความเร็วลม ณ จุดที่ Sensor ตั้งอยู่ บางจุดอาจอยู่ลึกเข้ามาในชายฝั่ง บางจุดอาจจะใกล้ชายทะเล ซึ่งจะมีผลต่อการคาดการณ์บ้างนิดหน่อย ระดับของความเร็วลม มีผลโดยตรงต่อความสูงของคลื่น ลมยิ่งแรง คลื่นยิ่งสูง แต่จะสูงมากหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับระยะทางที่ลมพัดอยู่บนผิวทะเล ยิ่งมีระยะทางมาก แม้ความเร็วลมไม่มาก แต่ก็ส่งผลให้เกินคลื่นสูงได้มากกว่า ลมแรง แต่มีระยะการพัดไม่มาก เช่น ลมตะวันตก ความเร็วลม 18 knots ที่เกาะช้าง จะมีคลื่นสูงกว่าความเร็วลมเท่ากันที่เกาะง่ามน้อยของจ.ชุมพร เป็นต้น
Wind gusts หรือลมกรรโชกแรง หมายถึง ความเร็วลมสูงสุดที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆ แล้วก็ผ่านไป พัดมาวูบเดียว หรืออาจะเป็นระลอก
Wind direction หรือทิศทางลม บอกถึงทิศทางที่ลมพัดว่า "มาจากทางไหน และไปทางไหน" โดยเราจะอ่านทิศทางลม จากต้นทางของลูกศร เช่น ถ้าต้นลูกศรยู่ทางด้านซ้าย และปลายลูกศรอยู่ด้านขวา หมายถึงลมพัดจากทิศตะวันตกไปทิศตะวันออก เราเรียกว่า "ลมตะวันตก" ทิศทางของลม สามารถบอกคร่าวๆ ได้ถึง ทิศทางของคลื่นเช่นกัน เพียงแต่อาจไม่แน่นอนเสมอไป เนื่องจากคลื่นในทะเล ได้รับอิทธิพลจากหลายปัจจัยด้วยกัน เช่น ทิศทางน้ำขึ้น น้ำลง คลื่่นจากมหาสมุทรใหญ่ และลักษณะการวางตัวของเกาะต่างๆ โดยรอบ สิ่งเหล่านี้มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของทิศทางคลื่นทั้งสิ้น แต่จะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับจุดดำน้ำแต่ละแห่งไป
Wave direction หรือทิศทางคลื่น บางพื้นที่อาจไม่แสดงข้อมูลนี้ สำหรับเว็บไซต์ที่มี เราสามารถดูจากทิศทางจากการพยากรณ์นี้ได้เลย โดยไม่ต้องมาคำนวณเองจากทิศทางของลม ทิศทางของคลื่นนอกอ่าว รวมทั้งอิทธิพลจากน้ำขึ้น - น้ำลง
Wave height หรือความสูงคลื่น โดยวัดจากท้องคลื่นลูกหนึ่ง ถึงยอดคลื่นอีกลูกหนึ่ง
วิธีการดูข้อมูลอย่างง่าย
วิธีที่ 1 ดูความสูงคลื่น ถ้าในเว็บไซต์ที่รายงานสภาพอากาศมีบอกถึงความสูงคลื่น ก็สามารถดูข้อมูลนั้นได้เลย ความสูงคลื่นที่แนะนำสำหรับการดำน้ำ คือไม่ควรเกิน 1.5 เมตร อย่างไรก็ตาม ความสูงของคลื่น ไม่ได้มีผลอย่างใดต่อการดำน้ำ มีผลเพียงทำให้นักดำน้ำมีโอกาสเมาเรือมากขึ้น มีโอกาสเกิดอันตรายได้ในขณะประกอบอุปกรณ์ รวมถึงระหว่างการโดดน้ำ และขึ้นจากน้ำ ซึ่งจะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างสูง
วิธีที่ 2 ดูความเร็วลม ด้านล่างนี้เป็นเพียงตัวอย่างการคาดการณ์คลื่น บริเวณแสมสาร อ.สัตหีบ
- 0 - 10 knots เป็นความเร็วลมที่ไม่ทำให้เกินคลื่นมากนัก มีคลื่นน้อยมาก สามารถอยู่บนเรือได้อย่างสบายๆ
- 10 - 14 knots เป็นความเร็วลมที่ก่อให้เกิดคลื่นเล็กน้อย แต่ยังพอเดินบนเรือได้ไม่ลำบากมากนัก อยู่ที่ประมาณ
- 15 - 18 knots ความเร็วลมระดับนี้ก่อให้เกิดคลื่นพอสมควร ประมาณ 1.5 - 2 เมตร เริ่มเดินบนเรือลำบาก
- > 18 knots ความเร็วลมระดับนี้ ทำให้เกิดคลื่นสูงตั้งแต่ 2 เมตรขึ้นไป เรือโคลงมาก
ความเร็วลมสูงกว่านี้ ไม่ควรออกดำน้ำ แม้ว่าในความเป็นจริงแล้ว เรือยังสามารถเดินทางไปยังจุดดำน้ำได้อย่างปลอดภัย แต่จุดดำน้ำที่สามารถดำได้ หรือจอดเรือได้ จะมีเพียงไม่กี่จุดเท่านั้น
ความเร็วลมข้างต้นนี้ เป็นเพียงตัวอย่างที่แสมสารเท่านั้น ในจุดดำน้ำอื่นๆ ก็จะมีความเร็วลมในระดับอันตรายที่แตกต่างกันนิดหน่อย เช่นที่เกาะง่ามน้อย จ.ชุมพร ความเร็วลมตะวันตกที่ยังสามารถออกทะเลได้ ยอมรับได้ถึง 20 - 22 knots แต่หากเป็นทางหินเพิง จ.ระยอง อาจได้เพียง 14 - 15 knots เท่านั้น
ใครสนใจการพยากรณ์ หรือคาดการณ์คลื่นลมเพิ่มเติม โดยสามารถเห็นทิศทางลมทั้งประเทศไทยในภาพเดียว สามารถดูได้ที่ Wind Finder รวมถึงการคาดการณ์พายุในโซน South East Asia ล่วงหน้าได้ถึง 7 วัน