| ประเภทการดำน้ำ | 1. Wall Dive: การดำน้ำตามกำแพงปะการังที่ทิ้งดิ่งลงสู่ความลึก เป็นรูปแบบการดำน้ำหลักในโบโฮล โดยเฉพาะรอบเกาะ Balicasag และ Cabilao 2. Drift Dive: การดำน้ำแบบปล่อยลอยตามกระแสน้ำ พบได้บ่อยในบริเวณช่องแคบระหว่างเกาะ 3. Reef Dive & Slope Dive: การดำน้ำบริเวณแนวปะการังบนยอดเขาใต้ทะเลและลาดชันปะการัง 4. Macro Diving: การดำน้ำเพื่อถ่ายภาพสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กตามพื้นทรายและซอกปะการัง (เช่น ที่ Eel Garden) 5. Shore Dive: การดำน้ำจากชายฝั่งโดยตรง เช่น ที่ Napaling |
|---|---|
| ระดับการดำน้ำ | ตั้งแต่ Open Water (OW) สำหรับ House Reef และจุดง่ายๆ จนถึง Advanced Open Water (AOW) สำหรับ Wall Dive ลึก และ Drift Dive ที่มีกระแสน้ำแรง |
| ความลึก | จุดดำน้ำส่วนใหญ่เป็นแนวปะการังที่ตื้น (3–7 เมตร) และดิ่งลงเป็นกำแพง (Wall Dive) ที่ความลึก 20–30 เมตรขึ้นไป |
| ทัศนวิสัยใต้น้ำ | โดยทั่วไปดีถึงดีมาก เฉลี่ยอยู่ระหว่าง 10 – 30 เมตร ทัศนวิสัยจะดีที่สุดในบริเวณนอกชายฝั่ง (Offshore) เช่น Balicasag |
| กระแสน้ำ | บริเวณช่องแคบ/เกาะรอบนอก (Balicasag, Cabilao): อาจมีกระแสน้ำแรงถึงปานกลาง |
| อุณหภูมิน้ำ | อุณหภูมิเฉลี่ย: 27°C – 31°C ตลอดทั้งปี ทำให้สามารถดำน้ำด้วยชุดเว็ทสูทหนา 3mm ได้อย่างสบาย |
| ฤดูท่องเที่ยว | สามารถดำน้ำได้ตลอดทั้งปี (Year-Round) แต่อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่ดีที่สุด คือ ฤดูแล้ง ซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือน พฤศจิกายนถึงเดือนพฤษภาคม ในช่วงนี้สภาพทะเลมักจะสงบ ทัศนวิสัยใต้น้ำดีเยี่ยม และมีความเสี่ยงจากคลื่นลมต่ำที่สุด นอกจากนี้ยังถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการพบเจอสัตว์ทะเลขนาดใหญ่ (Pelagic) ส่วนช่วง ฤดูฝน ซึ่งอยู่ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงตุลาคม ถึงแม้ว่าอาจมีโอกาสเกิดฝนตกหนักหรือคลื่นลมแรงบ้างเป็นครั้งคราว แต่สภาพการดำน้ำโดยรวมยังคงดีอยู่ ถึงแม้ทัศนวิสัยอาจลดลงเล็กน้อยในบางวัน แต่ก็ยังคงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักดำน้ำที่ไม่ต้องการเผชิญกับช่วงราคาสูงสุดของฤดูท่องเที่ยวหลัก |
| สิ่งที่น่าสนใจ | 1. สัตว์ทะเลขนาดใหญ่ (Big Animals & Pelagics) - เต่าทะเล (Sea Turtles) ทั้งเต่าตนุ (Green Sea Turtle) และเต่ากระ (Hawksbill Turtle) มีจำนวนมากและสามารถพบเห็นได้ง่ายเกือบทุกจุด โดยเฉพาะที่ Balicasag - ฝูงปลาขนาดใหญ่: ฝูงปลาหูช้าง (Batfish), ฝูงปลาทูน่า (Tuna), ปลากะมงตาโต (Big-eye Jack) และปลาอินทรี (Barracuda) - ฉลามและกระเบน: มีโอกาสพบเห็นฉลามหูดำและหูขาวตามแนวปะการัง รวมถึงอาจพบฉลามหัวค้อนและกระเบนราหูได้ในจุดดำน้ำที่ลึกกว่า (เช่น Doljo Point หรือ Cabilao) 2. สัตว์ทะเลขนาดเล็กและมาโคร (Macro & Critters) - สัตว์หายาก : ม้าน้ำแคระ (Pygmy Seahorse) ที่ซ่อนตัวอยู่ในพัดทะเล (Gorgonians), ปลากบ (Frogfish), ปลากระบอก (Pipefish) - ทากทะเล: ทากทะเล (Nudibranchs) ที่มีสีสันสดใสและหลากหลายชนิด - สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง: หมึกยักษ์ (Octopus), ปลาหมึกกระดอง (Cuttlefish), และปลาไหลมอเรย์ (Moray Eels) หลายสายพันธุ์ ปรากฏการณ์พิเศษ Napaling Sardine Run: เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ฝูงปลาซาร์ดีนจำนวนหลายล้านตัวรวมตัวกันเป็นมวลก้อนขนาดใหญ่ (Bait Ball) หมุนวนอยู่ใกล้กับชายฝั่ง สามารถพบเห็นได้โดยไม่ต้องออกเรือไปไกล |
เกาะโบโฮลตั้งอยู่ในเขตวิซายาสตอนกลาง (Central Visayas) ของฟิลิปปินส์ โดยมี ตักบิลารัน (Tagbilaran City) เป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางหลักในการเข้าถึงเกาะ อย่างไรก็ตาม ศูนย์กลางสำหรับนักท่องเที่ยวและนักดำน้ำคือ เกาะปังเลา (Panglao Island) โดยเฉพาะบริเวณ หาดอโลนา (Alona Beach) ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านดำน้ำและที่พักจำนวนมาก นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางจากเกาะโบโฮลไปยังเกาะปังเลาได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากมีสะพานเชื่อมต่อถึงกัน ทำให้การเดินทางสะดวกรวดเร็ว
นอกเหนือจากกิจกรรมการดำน้ำที่เป็นหัวใจหลักแล้ว โบโฮลยังมีสถานที่ท่องเที่ยวบนบกที่พลาดไม่ได้ เช่น การเยี่ยมชมภูมิประเทศอันเป็นเอกลักษณ์ของ ช็อกโกแลตฮิลส์ (Chocolate Hills) การเข้าชม ทาร์เซียร์ (Philippine Tarsier) สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่เล็กที่สุดในโลกในเขตอนุรักษ์ หรือการล่องเรือชมธรรมชาติไปตามแม่น้ำโลโบก (Loboc River) เป็นต้น
1. Balicasag Island (Marine Sanctuary)
เกาะ Balicasag เป็นเขตอนุรักษ์ทางทะเลระดับโลกที่อยู่ไม่ไกลจากปังเลา เป็นจุดหมายที่ต้องไม่พลาดสำหรับนักดำน้ำทุกคน จุดเด่นคือการดำน้ำแบบ Wall Dive ตามแนวกำแพงปะการังที่สมบูรณ์ที่สุดในโบโฮล ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องการพบเห็น เต่าทะเล (Sea Turtles) ทั้งเต่าตนุและเต่ากระจำนวนมากเกือบทุกไดฟ์ นอกจากนี้ยังมีโอกาสพบเห็นฝูงปลาขนาดใหญ่ (เช่น Jackfish และ Barracuda) ที่มาหาอาหารตามกระแสน้ำปานกลางถึงแรง
2. Napaling Reef (Sardine Run)
Napaling เป็นจุดดำน้ำที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในนาม Sardine Run แห่งโบโฮล ที่นี่มีความพิเศษคือเป็นจุดดำน้ำที่สามารถทำ Shore Dive ได้จากชายฝั่งของเกาะปังเลา โดยไม่ต้องนั่งเรือออกไปไกล กำแพงปะการังเริ่มต้นใกล้กับผิวน้ำ และดิ่งลงสู่ความลึก ทำให้เป็นแหล่งที่ฝูงปลาซาร์ดีนจำนวนมหาศาลรวมตัวกันสร้างปรากฏการณ์ Bait Ball ที่น่าทึ่งตลอดทั้งปี
3. Arco Point / Hole in the Wall
Arco Point ตั้งอยู่บนเกาะปังเลาและเป็นที่รู้จักจากลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่เป็นเอกลักษณ์ คือ Hole in the Wall ซึ่งเป็นช่องอุโมงค์เล็กๆ ที่ให้นักดำน้ำสามารถว่ายลอดผ่านจากความตื้น (ประมาณ 5 เมตร) ไปยังกำแพงปะการังที่ความลึกประมาณ 16 เมตร การดำน้ำส่วนใหญ่เป็นการชมแนวปะการังอ่อนที่สวยงาม และเหมาะสำหรับการค้นหาสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่ซ่อนตัวอยู่ตามซอกหลืบ
4. Cabilao Island
Cabilao เป็นเกาะที่ต้องเดินทางด้วยเรือออกจากปังเลาไปทางตะวันตก เกาะนี้มีชื่อเสียงในเรื่องความสงบและแนวปะการังที่ยังคงความบริสุทธิ์สูง การดำน้ำมักจะเป็นแบบ Drift Dive ตามกระแสน้ำแรงปานกลางถึงแรง Cabilao ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นจุดที่มีโอกาสสูงในการพบ ฉลามหัวค้อน (Hammerhead Shark) ในช่วงฤดูกาล รวมถึงเป็นแหล่งรวมของม้าน้ำแคระ (Pygmy Seahorse) และสัตว์มาโครหายาก
5. Eel Garden
Eel Garden ตั้งอยู่ใกล้กับหาดอโลนาบนเกาะปังเลา และมักเป็นจุดดำน้ำที่ง่ายและมีความหลากหลาย เป็นการดำน้ำตามแนวลาดชันของทรายที่นำไปสู่กำแพงปะการัง จุดเด่นคือการพบ ปลาไหลสวน (Garden Eels) ที่ยื่นตัวออกจากพื้นทรายที่ความลึกประมาณ 30 เมตร นอกจากนี้ยังเป็นจุดที่ยอดเยี่ยมสำหรับการดำน้ำ Night Dive เพื่อค้นหาสัตว์มาโครต่างๆ เช่น ปลากบ, ปลาหมึก, และทากทะเล
การเดินทางไปยังเกาะโบโฮล นิยมเดินทางโดยเครื่องบินไปลงที่ สนามบินนานาชาติโบโฮล-ปังเลา (Bohol-Panglao International Airport - TAG) ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะปังเลา การเดินทางจากประเทศไทยจะไม่มีเที่ยวบินตรง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการต่อเครื่องในเมืองใหญ่ของฟิลิปปินส์ก่อน
การเดินทางจากประเทศไทยสู่ฟิลิปปินส์
บินจากกรุงเทพฯ (BKK/DMK) ไปยังจุดเปลี่ยนเครื่องหลัก เช่น มะนิลา (Manila - MNL) หรือ เซบู (Cebu - CEB) เมื่อมาถึงฟิลิปปินส์แล้ว จะมีทางเลือกหลัก 2 ทางในการเดินทางไปยังโบโฮล ได้แก่
1. ทางเครื่องบิน (สะดวกที่สุด):
เส้นทาง: ต่อเที่ยวบินภายในประเทศจากมะนิลา (MNL) หรือเซบู (CEB) ตรงไปยัง สนามบินโบโฮล-ปังเลา (TAG)
ข้อดี: ประหยัดเวลาและสะดวกสบายที่สุด โดยเฉพาะหากมีสัมภาระดำน้ำจำนวนมาก
2. ทางเรือเฟอร์รี่ (ทางเลือกยอดนิยมจากเซบู):
เส้นทาง: บินมาลงที่ เซบู (CEB) จากนั้นเดินทางไปยัง ท่าเรือ Pier 1 ในตัวเมืองเซบู เพื่อขึ้นเรือเฟอร์รี่ความเร็วสูง (เช่น OceanJet) ไปยังท่าเรือ ตักบิลารัน (Tagbilaran Port) บนเกาะโบโฮล (ระยะเวลาเดินทาง: ประมาณ 1.5 – 2 ชั่วโมง)
ข้อดี: ประหยัดกว่าการบินต่อเครื่อง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแวะเที่ยว Oslob หรือ Cebu ก่อน
การเดินทางภายในเกาะปังเลา
เมื่อเดินทางถึงสนามบิน TAG หรือท่าเรือตักบิลารันแล้ว การเดินทางไปยังที่พักบนเกาะปังเลา (เช่น หาดอโลนา) สามารถทำได้โดยใช้รถแท็กซี่ รถตู้รับส่งที่จองไว้ล่วงหน้า หรือรถสามล้อ (Tricycle) ซึ่งมีให้บริการทั่วไป (ควรตกลงราคาค่าใช้จ่ายในการเดินทางก่อนใช้บริการ)
ที่พักหลักสำหรับนักดำน้ำ: มักจะตั้งอยู่บริเวณ หาดอโลนา (Alona Beach) และพื้นที่ใกล้เคียงบน เกาะปังเลา มีตัวเลือกตั้งแต่โฮสเทลไปจนถึงรีสอร์ตดำน้ำและโรงแรมหรู
หากพักค้างคืนที่เซบู: หากเลือกเดินทางด้วยเรือเฟอร์รี่จากเซบู หรือเที่ยวบินที่ต้องพักค้างคืนที่เซบู มีที่พักหลากหลายประเภทในพื้นที่ใกล้กับสนามบิน (Mactan Island) หรือในตัวเมืองเซบู (Cebu City) ก่อนเดินทางต่อ
เนื่องจากเซบูเป็นศูนย์กลางด้านการคมนาคมและบริการทางการแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในเขตวิซายาสตอนกลาง จึงมีศูนย์การแพทย์ที่ให้บริการ Hyperbaric Chamber ที่สามารถเดินทางเข้าถึงได้ง่ายจากโบโฮลด้วยเรือเฟอร์รี่ความเร็วสูงหากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือในกรณีที่ต้องมีการรักษาต่อ
บนเกาะปังเลา (Panglao, Bohol): Panglao Rural Health Unit (อยู่ในเขตปังเลา โบโฮล)
บนเกาะเซบู (Cebu): Maayo Well, Mandaue City, Cebu