เกาะเต่า

เกาะเต่า
ประเภทการดำน้ำ Boat Diving, Wreck Diving
ระดับการดำน้ำ ทุกระดับ
ความลึก 10 - 30 เมตร
ทัศนวิสัยใต้น้ำ 5 - 15 เมตร ขึ้นกับสภาพอากาศและฤดูกาล
กระแสน้ำ น้ำนิ่ง - ปานกลาง
อุณหภูมิน้ำ 27-31 C
จุดดำน้ำ กองหินชุมพร, กองหินตุ้งกู, หินใบ, หินวง, และหินขาว, เรือหลวงสัตกูด
ฤดูท่องเที่ยว ดำน้ำได้ตลอดปี แต่ช่วงกลางตุลาคม - กลางธันวาคม ถือว่าเป็นฤดูมรสุมที่คลื่นค่อนข้างแรง ส่วนฤดูที่ดีที่สุดอยู่ที่ มีนาคม-มิถุนายน ซึ่งถือว่าเป็นฤดูแห่งฉลามวาฬ
สิ่งที่น่าสนใจ ฉลามวาฬ, เต่ากระ, Bull Shark, Titan Triggerfish, ฝูงปลากระมง, ฉลามหูดำ, ปลากระเบนหลากชนิด, ปลาสาก (Barracuda), ปลาไหลมอเรย์, ปลาปักเป้า, ปลาหูช้าง, ปลาแมงป่อง, ปลาสิงโต, ปลาผีเสื้อ, ปลาสินสมุทร, ปลานกแก้ว, ปลาการ์ตูน, หมึกยักษ์, หมึกกล้วย, หมึกกระดอง, ไปจนถึงทากทะเลและหนอนตัวแบน

ข้อมูลทั่วไป

เกาะเต่า นับเป็นแหล่งดำน้ำที่ดีที่สุดของทะเลฝั่งอ่าวไทย สภาพใต้ทะเลของเกาะเต่ามักจะเป็นกองหิน หรือผาหินรอบเกาะที่มีปะการังดำขึ้นอยู่มากมาย ปะการังถ้วยส้ม และฟองน้ำหลากสีสันเกาะอยู่ตามผาหิน หนอนพู่ฉัตรสีสันสดใส แส้ทะเลสีแดงขึ้นอยู่มากมาย เช่น บริเวณหินวง และกงทรายแดง

ส่วนกองหินที่อยู่รอบนอกไกลออกไปจากเกาะเต่า เช่น กองชุมพร (Chumpon Pinnacle) กองตุ้งกู (South West) และหินใบ (Pinnacle Sail Rock) นั้นเป็นจุดดำน้ำในระดับค่อนข้างลึก นักดำน้ำอาจพบปลาหมอทะเลขนาดใหญ่ ฝูงปลาหูช้าง ฝูงปลาข้างเหลือง และปลาฉลามวาฬที่แวะเวียนมาในบางครั้ง

สัตว์ทะเลที่น่าสนใจ

  • มีแนวปะการังที่สมบูรณ์รอบเกาะ ทั้งแนวปะการังตามธรรมชาติและปะการังเทียม รวมถึงแนวปะการังเทียมที่เป็นศิลปะใต้น้ำ
  • เป็นจุดดำน้ำที่พบเจอฉลามวาฬได้บ่อยที่สุดแห่งหนึ่งของไทย ถึงขนาดมีโปรแกรม Koh Tao Whaleshark ซึ่งเป็นฐานข้อมูลฉลามวาฬที่อาศัยลายจุดข้างลำตัวฝั่งซ้ายในการจำแนกฉลามวาฬแต่ละตัว โดยอาศัยภาพถ่ายจากนักดำน้ำ
  • ที่นี่ถือเป็นสวรรค์ของเต่าทะเล ทั้งเต่าตนุและเต่ากระ รวมถึงเคยมีการพบเต่าหญ้าสุดหายากที่นี่ด้วย จากฐานข้อมูลของโปรแกรม Koh Tao Turtles ซึ่งใช้ลายที่แก้มในการจำแนกเต่าแต่ละตัว พบว่า มีเต่าที่เคยถูกพบที่นี่มากกว่า 160 ตัว ซึ่งทุกตัวได้รับการตั้งชื่อ  
  • นอกจากนั้น ยังมีสัตว์ทะเลที่น่าสนใจอื่นๆ มากมาย ตั้งแต่ตัวใหญ่ไปจนถึงตัวเล็ก ตั้งแต่ฉลามหูดำ ปลากระเบนหลากชนิด ปลาสาก (Barracuda) ปลาไหลมอเรย์ ปลาปักเป้า ปลาหูช้าง ปลาแมงป่อง ปลาสิงโต ปลาผีเสื้อ ปลาสินสมุทร ปลานกแก้ว ปลาการ์ตูน หมึกยักษ์ หมึกกล้วย หมึกกระดอง ไปจนถึงทากทะเลและหนอนตัวแบนสีสวยมากมาย

ข้อควรระวัง

  • บางฤดูกาลอาจต้องระมัดระวังแมงกะพรุนกล่องเป็นพิเศษ โดยฤดูที่มีความเสี่ยงมากที่สุดคือช่วงเดือนกรกฎาคม – ธันวาคม โดยเฉพาะการดำน้ำเวลากลางคืน เนื่องจากแมงกะพรุนกล่องมักเข้ามาหากินในแนวปะการังในช่วงกลางคืนและถูกดึงดูดด้วยแสงไฟฉาย
  • ปลาวัวไททัน (Titan Triggerfish) โดยประชากรของเกาะเต่าขึ้นชื่อเรื่องความดุร้ายเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในฤดูวางไข่ ซึ่งถูกเล่าขานว่าไล่กัดนักดำน้ำเป็นประจำ หากพบเจอปลาวัวไททัน ควรว่ายออกห่าง และหากสังเกตว่าครีบหลังตั้งชันขึ้น แปลว่ามันรู้สึกถูกคุกคาม ให้ว่ายหนีในแนวราบ เนื่องจากอาณาเขตของมันเป็นทรงกรวย (รูปตัว V) จากพื้นทะเล และว่ายถอยหลังโดยหันหน้าเข้าหาปลาวัวตลอดเวลาเพื่อไม่ให้ถูกลอบกัด

จุดดำน้ำ (รายละเอียด)

กองหินชุมพร (Chumpon Pinnacle) : ความลึกสูงสุด 30 เมตร เต็มไปด้วยปะการังแข็งและปะการังอ่อน ดอกไม้ทะเล ปลาการ์ตูน ฝูงปลานานาชนิด และมีโอกาสเจอฉลามวาฬสูง

กองตุ้งกู (Southwest Pinnacles) : ความลึกสูงสุด 28 เมตร มีกองหินใหญ่ที่ล้อมไปด้วยกองหินย่อยๆ มีฝูงปลาหลากหลายและมีโอกาสเจอฉลามวาฬ ถ้าโชคดีอาจได้เจอวาฬบรูด้าด้วย นอกจากนั้น เคยมีคนพบปลาสุดหายากอย่างปลาโรนัน (guitarfish) ที่นี่

หินใบ (Sail Rock) : ความลึกสูงสุด 40 เมตร มีหินโผล่เหนือผิวน้ำเหมือนใบเรือ จุดเด่นคือ มีช่องที่เรียกว่า “ปล่องไฟ” เป็นอุโมงค์ให้นักดำน้ำมุดลงไปสำรวจ โดยทางเข้าอยู่ที่ระดับ 5 เมตร และทางออกที่ระดับ 18 เมตร มีฝูงปลาขนาดใหญ่ที่บางทีอาจมากถึงพันๆ ตัว รวมทั้งสัตว์น้ำทุกขนาดตั้งแต่ฉลามวาฬไปจนถึงกุ้งปะการัง (coral banded shrimp) ตัวจิ๋ว

ประติมากรรมใต้น้ำและปะการังเทียม : หลายอ่าวของเกาะเต่ามีงานศิลปะใต้น้ำที่ไม่ใช่แค่เพื่อความสวยงาม แต่เพื่อเพิ่มพื้นผิวให้ปะการังลงเกาะ เช่น

  • Ocean Utopia ที่อ่าวเต่าทอง จากผลงานศิลปินชาวฝรั่งเศสที่ชื่อ Valérie Goutard
  • ปะการังเทียมแห่งอ่าวลึก ทีมีทั้งรูปปั้นใบหน้าคนที่ให้ปะการังลงเกาะตามธรรมชาติ หรือโครงสร้างเหล็กดัดเป็นรูปร่างต่างๆ ที่ทีมนักดำน้ำเชิงอนุรักษ์จาก New Heaven Reef Conservation Program ดำไปช่วยชีวิตเศษปะการังที่แตกหักตามพื้นทะเลมาผูกกับโครงสร้าง โดยใช้เทคนิค Mineral Accretion เพื่อช่วยให้ปะการังเติบโตดีขึ้น  
  • Buoyancy World ใกล้กับกองหินทวิน ที่เป็นโครงสร้างสำหรับฝึกการลอยตัว เช่น โครงสร้างที่เป็นรูปร่างหมึกสาย ซึ่งแต่ละหนวดจะมีช่องให้นักดำน้ำว่ายลอดเข้าไป

หินขาว (White Rock) : ความลึกสูงสุด 22 เมตร เป็นหนึ่งในจุดดำน้ำที่ใหญ่ที่สุดของเกาะเต่า และถือเป็นจุดดำน้ำกลางคืนที่ได้รับความนิยม มีสัตว์น้ำหลากหลาย ทั้งเต่าทะเล ปลาปักเป้า หมึกกระดอง ปลาไหลมอเรย์ และถ้าโชคดีอาจได้เจองูทะเล

อ่าวฉลาม (Shark Bay) เป็นอ่าวทางตอนใต้ของเกาะที่ไม่มีปะการังมากนักและปกคลุมด้วยสาหร่าย แต่เป็นอ่าวที่มีเต่าทะเลขาประจำอยู่หลายตัวและพบเห็นได้ง่าย รวมถึงฉลามหูดำ ที่สามารถเห็นได้แม้จะดำแบบสน็อกเกิล

นอกจากนั้น รอบๆ เกาะเต่ายังมีจุดดำน้ำอื่นๆ อีกหลายแห่ง เช่น เรือจมสัตกูต (Sattakut Shipwreck) หินเขียว (Green Rock) กองหินวง (Hin Wong Pinnacle) กงทรายแดง (Shark Island) สวนญี่ปุ่น (Japanese Garden) กองหินนางยวน (Nang Yuan Pinnacle) อ่าวม่วง (Mango Bay) อ่าวโตนด (Tanote Bay) กองหินแดง (Red Rock) ฯลฯ

 

การเดินทาง


การเดินทางสู่เกาะเต่ามาได้จากหลายเส้นทาง ทั้งทางเกาะสมุย ทาง จ.สุราษฎร์ธานี และทาง จ.ชุมพร

1. ทางเกาะสมุย : เครื่องบินมาลงที่สนามบินเกาะสมุย และต่อด้วยเรือเร็วลมพระยา

2. ทางจังหวัดสุราษฎร์ธานี : สามารถมาได้ทั้งทางเครื่องบิน / รถไฟ / รถทัวร์ (ลงที่ตัวเมืองสุราษฎร์) และต่อด้วยเรือข้ามฟากมาเกาะเต่า ซึ่งมี 2 แบบหลักๆ คือ

  • เรือเร็ว เช่น บริษัทเรือเร็วลมพระยา ซึ่งมีรถรับส่งจากสนามบินและสถานีรถไฟ ใช้เวลาราว 4 ชั่วโมงกว่าๆ ราคา 1,000 บาท
  • เรือนอน ซึ่งเป็นวิธีที่ประหยัดกว่า (ราคาประมาณ 600 บาท) ออกจากท่าราว 3-5 ทุ่ม และถึงเกาะเช้ามืด มีหลายบริษัท เช่น เรือเกาะเจริญ เรือแสนดีมณีทรัพย์ เรือ ช. แม่ตาปีเรือซีเครท โดยแต่ละบริษัทไม่ได้มีรอบเรือทุกวัน ต้องตรวจสอบตารางเวลากับทางบริษัทโดยตรงเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงเรื่อยๆ (เรือแต่ละบริษัทอาจมีเตียงนอนไม่เหมือนกัน บางลำอาจเป็นเตียงสองชั้นมีระยะห่าง แต่บางลำก็เป็นฟูกเรียงชิดติดกัน ควรสอบถามให้แน่ใจก่อนจองตั๋ว) สามารถตรวจสอบตารางการเดินเรือประจำแต่ละเดือนได้ที่เฟซบุ๊กเพจ ‘เทศบาลตำบลเกาะเต่า อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี

3. ทางจังหวัดชุมพร : มาได้ทั้งทางเครื่องบิน / รถไฟ / รถทัวร์ (ลงที่ตัวเมืองชุมพร) และต่อด้วยเรือข้ามฟากมาเกาะเต่าเช่นกัน โดยมีทั้งเรือเร็วและเรือนอน

4. รถทัวร์จากกรุงเทพฯ : บริษัทลมพระยามีแพ็กเกจ รถทัวร์+เรือ จาก ถ.ข้าวสาร กรุงเทพฯ
จนถึงเกาะเต่า ในราคา 1,450 บาท ต่อคน

5. รถยนต์ส่วนตัว

  • สามารถจอดได้ที่ท่าเรือของบริษัทลมพระยา อ่าวทุ่งมะขามน้อย จ.ชุมพร โดยมีค่าบริการ 50 บาทต่อวัน
  • นำรถข้ามฟากไปเกาะเต่าทางเรือนอนได้ แต่ไม่แนะนำเนื่องจากถนนบนเกาะเต่าค่อนข้างแคบและที่จอดน้อย

 

 ชุมพร-สุราษฎร์

การเดินทางมายังชุมพร-สุราษฎร์

เดินทางโดยรถยนต์

จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทาง พุทธมณฑล นครปฐม-เพชรบุรี หรือเส้นทาง สายธนบุรี-ปากท่อ (หมายเลข 35)แล้วแยกที่อำเภอ ปากท่อ เข้าทางหลวง แผ่นดิน หมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ผ่านจังหวัดเพชรบุรีประจวบคีรีขันธ์ จนถึงสี่แยกปฐมพร จากนั้นแยกซ้ายเข้าตัวเมืองชุมพร ตาม ทางหลวงหมายเลข 4001 อีกประมาณ 8 กิโลเมตร

รถโดยสารประจำทาง

มีทั้งรถโดยสาร ธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศที่เดินทางออกจาก สถานีขนส่งสายใต้ ไปชุมพร ทุกวัน รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อที่ฝ่าย ประชาสัมพันธ์ สถานีขนส่งสายใต้ โทร. 435-1200, 434-7192

การรักษาพยาบาล

สถานพยาบาลที่มีเครื่องRecompression Chamber 

ศูนย์ SSS Chamber Network Koh Tao บริเวณแม่หาด โทร. 081-081-9777

สถานพยาบาลอื่นๆ เช่น

โรงพยาบาลเกาะเต่า โทร. 077-456-490