ประเภทการดำน้ำ | Boat Diving, Wreck Diving |
---|---|
ระดับการดำน้ำ | สำหรับมือใหม่ และนักดำน้ำที่มีประสบการณ์ |
ความลึก | 10 - 30 เมตร |
ทัศนวิสัยใต้น้ำ | 5 - 15 เมตร ขึ้นกับสภาพอากาศและฤดูกาล |
กระแสน้ำ | None - Medium |
อุณหภูมิน้ำ | 27-31 ๐C |
จุดดำน้ำ | กองหินชุมพร, กองหินตุ้งกู, หินใบ, หินวง, และหินขาว, เรือหลวงสัตกูด |
ฤดูท่องเที่ยว | ดำน้ำได้ตลอดปี แต่ช่วงกลางตุลาคม - กลางธันวาคม ถือว่าเป็นฤดูมรสุมที่คลื่นค่อนข้างแรง ส่วนฤดูที่ดีที่สุดอยู่ที่ มีนาคม-มิถุนายน ซึ่งถือว่าเป็นฤดูแห่งฉลามวาฬ ข้อควรระวัง บางฤดูกาลอาจต้องระมัดระวังแมงกะพรุนกล่องเป็นพิเศษ โดยฤดูที่มีความเสี่ยงมากที่สุดคือช่วงเดือนกรกฎาคม – ธันวาคม โดยเฉพาะการดำน้ำเวลากลางคืน เนื่องจากแมงกะพรุนกล่องมักเข้ามาหากินในแนวปะการังในช่วงกลางคืนและถูกดึงดูดด้วยแสงไฟฉาย ปลาวัวไททัน (Titan Triggerfish) โดยประชากรของเกาะเต่าขึ้นชื่อเรื่องความดุร้ายเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในฤดูวางไข่ ซึ่งถูกเล่าขานว่าไล่กัดนักดำน้ำเป็นประจำ หากพบเจอปลาวัวไททัน ควรว่ายออกห่าง และหากสังเกตว่าครีบหลังตั้งชันขึ้น แปลว่ามันรู้สึกถูกคุกคาม ให้ว่ายหนีในแนวราบ เนื่องจากอาณาเขตของมันเป็นทรงกรวย (รูปตัว V) จากพื้นทะเล และว่ายถอยหลังโดยหันหน้าเข้าหาปลาวัวตลอดเวลาเพื่อไม่ให้ถูกลอบกัด |
สิ่งที่น่าสนใจ | ฉลามวาฬ, เต่ากระ, Bull Shark, Titan Triggerfish, ฝูงปลากระมง, ฉลามหูดำ, ปลากระเบนหลากชนิด, ปลาสาก (Barracuda), ปลาไหลมอเรย์, ปลาปักเป้า, ปลาหูช้าง, ปลาแมงป่อง, ปลาสิงโต, ปลาผีเสื้อ, ปลาสินสมุทร, ปลานกแก้ว, ปลาการ์ตูน, หมึกยักษ์, หมึกกล้วย, หมึกกระดอง, ไปจนถึงทากทะเลและหนอนตัวแบน |
เกาะเต่า นับเป็นแหล่งดำน้ำที่ดีที่สุดของทะเลฝั่งอ่าวไทย สภาพใต้ทะเลของเกาะเต่ามักจะเป็นกองหิน หรือผาหินรอบเกาะที่มีปะการังดำขึ้นอยู่มากมาย ปะการังถ้วยส้ม และฟองน้ำหลากสีสันเกาะอยู่ตามผาหิน หนอนพู่ฉัตรสีสันสดใส แส้ทะเลสีแดงขึ้นอยู่มากมาย เช่น บริเวณหินวง และกงทรายแดง ส่วนกองหินที่อยู่รอบนอกไกลออกไปจากเกาะเต่า เช่น กองชุมพร (Chumpon Pinnacle) กองตุ้งกู (South West) และหินใบ (Pinnacle Sail Rock) นั้นเป็นจุดดำน้ำในระดับค่อนข้างลึก นักดำน้ำอาจพบปลาหมอทะเลขนาดใหญ่ ฝูงปลาหูช้าง ฝูงปลาข้างเหลือง และปลาฉลามวาฬที่แวะเวียนมาในบางครั้ง
สัตว์ทะเลที่น่าสนใจ
- มีแนวปะการังที่สมบูรณ์รอบเกาะ ทั้งแนวปะการังตามธรรมชาติและปะการังเทียม รวมถึงแนวปะการังเทียมที่เป็นศิลปะใต้น้ำ
- เป็นจุดดำน้ำที่พบเจอฉลามวาฬได้บ่อยที่สุดแห่งหนึ่งของไทย ถึงขนาดมีโปรแกรม Koh Tao Whaleshark ซึ่งเป็นฐานข้อมูลฉลามวาฬที่อาศัยลายจุดข้างลำตัวฝั่งซ้ายในการจำแนกฉลามวาฬแต่ละตัว โดยอาศัยภาพถ่ายจากนักดำน้ำ
- ที่นี่ถือเป็นสวรรค์ของเต่าทะเล ทั้งเต่าตนุและเต่ากระ รวมถึงเคยมีการพบเต่าหญ้าสุดหายากที่นี่ด้วย จากฐานข้อมูลของโปรแกรม Koh Tao Turtles ซึ่งใช้ลายที่แก้มในการจำแนกเต่าแต่ละตัว พบว่า มีเต่าที่เคยถูกพบที่นี่มากกว่า 160 ตัว ซึ่งทุกตัวได้รับการตั้งชื่อ
- นอกจากนั้น ยังมีสัตว์ทะเลที่น่าสนใจอื่นๆ มากมาย ตั้งแต่ตัวใหญ่ไปจนถึงตัวเล็ก ตั้งแต่ฉลามหูดำ ปลากระเบนหลากชนิด ปลาสาก (Barracuda) ปลาไหลมอเรย์ ปลาปักเป้า ปลาหูช้าง ปลาแมงป่อง ปลาสิงโต ปลาผีเสื้อ ปลาสินสมุทร ปลานกแก้ว ปลาการ์ตูน หมึกยักษ์ หมึกกล้วย หมึกกระดอง ไปจนถึงทากทะเลและหนอนตัวแบนสีสวยมากมาย
จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทาง พุทธมณฑล นครปฐม-เพชรบุรี หรือเส้นทาง สายธนบุรี-ปากท่อ (หมายเลข 35)แล้วแยกที่อำเภอ ปากท่อ เข้าทางหลวง แผ่นดิน หมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ผ่านจังหวัดเพชรบุรีประจวบคีรีขันธ์ จนถึงสี่แยกปฐมพร จากนั้นแยกซ้ายเข้าตัวเมืองชุมพร ตาม ทางหลวงหมายเลข 4001 อีกประมาณ 8 กิโลเมตร
มีทั้งรถโดยสาร ธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศที่เดินทางออกจาก สถานีขนส่งสายใต้ ไปชุมพร ทุกวัน รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อที่ฝ่าย ประชาสัมพันธ์ สถานีขนส่งสายใต้ โทร. 435-1200, 434-7192