Dive No. | 1415 |
Date: | 14/2/2010 Valentine and Chinese New Year |
Time: | 12:48 |
Temp: | 29c |
Sur Int: | 1:52 |
Bottom Time: | 73 Minutes |
Dive Site: | เกาะสาก University |
แต่ก่อน ก่อนฉันได้มาดำน้ำที่นี่ ไดฟ์ไซต์นี้เรียกกันเฉยๆ ว่า เกาะสาก หากแต่เมื่อครั้งที่ฉันได้มาฝึกไดฟ์มาสเตอร์โดยต้องมาดูแลกลุ่มนักดำน้ำ Open Water กลุ่มใหญ่ ฉันจึงให้ชื่อไดฟ์ไซต์นี้ว่า เกาะสาก University เพราะหากนับจำนวนนักดำน้ำที่มา certify ที่นี่ ฉันว่าคงจะนับได้เป็นเลข 4 หลักต่อปี คงจะมากกว่าที่อื่นๆ ในทะเลฝั่งภาคตะวันออกตอนบนนี้
ที่เกาะสาก university นั้น เป็นสถานที่ๆ เหมาะจะเป็นที่ฝึกสอนดำน้ำเพราะเป็นอ่าวที่สามารถหลบคลื่นลมตะวันออกได้ดี มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นทรายที่ค่อยๆ ไหลลาดลงไปไม่ลึกมาก
สัตว์ทะเลตัวเล็กๆ จะมีให้เห็นอยู่ทั่วไป เช่น ม้าน้ำที่มักจะอยู่กับหอยเม่นพันธุ์ดินสอ กุ้งตัวยาวบนแส้ทะเล Slender Seamoth ฉันมักจะเรียกมันว่าปลานกกระจอก เพราะมันมีลำตัวเหมือนนกกางปีกอยู่ตลอดเวลา ยังมีปลาหมึกโออิชิ (ไม่ใช่ปลาหมึกกล้วยบนรถเข็น) มีปลาหน้าตาประหลาดน่าจะอยู่ในพันธุ์ปลาปักเป้าที่มีปากเล็กๆ ดวงตากลมโตมีขอบเป็นสีทองและตัวเป็นลาย ที่ฉันจะเรียกว่าปลา Stalker หรือ ปลาถ้ำมอง เพราะดำน้ำทีไรมีเจ้าตัวนี้ตามไปทั่ว บางทีก็โฉบเข้ามาใกล้ๆ แล้วก็ว่ายออกไป
ทุกๆ ปีฉันจะมาดำน้ำที่เกาะสาก university นี้อย่างน้อยเป็น 10 ครั้ง แต่เท่าที่จำได้ ปี 2009 นั้น ฉันได้มาแค่ครั้งเดียวตอนสอบครูเท่านั้น ซึ่งในวันนั้นฉันไม่ได้เห็นอะไรเลยนอกจากหน้าของเพื่อนๆ ที่ลงไปสอบด้วยกัน และครูผู้สอบ
วันนี้อากาศดี อาจจะเพราะเป็นวันแห่งความรัก (เกี่ยวกันรึเปล่านี่) บรรยากาศบนเรือก็ดี อาจจะเพราะเป็นวันปีใหม่ของจีน (เกี่ยวอีกรึเปล่านี่) ที่แน่ๆ บนเรือชื่อตองสามวันนี้ คุณสมหมายต้องจัดทริปขอบคุณลูกค้าชั้นดีอย่างฉันแน่นอน เพราะมีนักดำน้ำแค่ 14 คน อยู่กันสบายๆ ดำน้ำกันชิวๆ ไม่เร่งรีบ ไม่เสียงดัง แถมมีลมตะวันออกพัดมาระดับเปิดพัดลมเบอร์ 3 ทำให้แดดในวันนี้ไม่ร้อนอย่างที่ควรจะเป็น
วันนี้เป็นวันเที่ยวของคนจีน ฉันพาเพื่อนๆ มาดำน้ำเล่น เพื่อลองอุปกรณ์และเตรียมความพร้อมก่อนไปสิมิลันเร็วๆ นี้ ไดฟ์แรกพวกเราลงกันที่เรือหลวงกูด ซึ่งแน่นอน ตะกุกตะกัก เพราะอุปกรณ์ใหม่ หน้ากากใหม่ wet suit ใหม่ BCD ใหม่ ... ดีนะ นักดำน้ำไม่ใช่มือใหม่ มิเช่นนั้นคงวุ่นวายกว่านี้ อีรุงตุงนัง เพราะน้ำไหลนิดๆ แค่เฉพาะพวกฉัน 5 คน ก็นัวเนียกันบนเชือกเส้นเดียวที่พาลงไปสู่เรือ โชคดีอีกที่วันนี้มีคนมาเที่ยวเรือหลวงกูดกันน้อย
สามสิบนาทีที่เรือหลวงกูด พวกเราเดินทางกลับมาที่สายทุ่นเหมือนเดิม เพราะอากาศเหลือน้อยแล้วและเวลาใต้น้ำใกล้จะหมดลงแล้ว เหมือนเดิมกับขาลง คือ อีรุงตุงนัง ขึ้นสายเชือกเส้นเดียวกันต่อ กลับขึ้นถึงเรือตองสาม พวกฉันรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า และกลับขึ้นไปนั่งตากพัดลมเบอร์สามและเล่นเกมส์ดูเปลือกตาแข่งกัน อะไรมันจะเป็นการพักผ่อนกับการดำน้ำพัทยาขนาดนี้
เที่ยงครึ่ง ฉันตื่นขึ้นมาและจัดการปลุกทุกคนที่ยังแข่งดูเปลือกตาอยู่ โดยบอกว่า "เกมส์จบแล้ว ไปดำน้ำกัน" ตอนนี้เรือตองสามจอดอยู่ที่หน้าอ่าวทิศเหนือของเกาะสาก ทีฉันเรียกว่า เกาะสาก university นั่นเอง ตอนแข่งกันดูเปลือกตา พวกเราหลับกันไปได้ด้วยความรู้สึกว่าแข่งกันจริงๆ เพราะได้ยินเสียงเรือเร็ว speed boat และบางทีเป็น jet ski วิ่งผ่านไปผ่านมาอยู่บ่อยๆ
เวลาเที่ยงกว่าๆ เป็นเวลาดี เพราะส่วนมาก speed boat จะมากันตอนช่วงเช้า และออกไปก่อนเที่ยงกันเกือบหมด แต่ด้วยความไม่ไว้วางใจ ฉันต้องบอกนักดำน้ำที่ดำน้ำด้วยกันว่า อย่าขึ้นสู่ผิวน้ำก่อนฉันเป็นอันขาด
12:48 พวกฉันดำน้ำลงไปจากท้ายเรือ วันนี้โชคดีอีกแล้ว น้ำที่เกาะสากใสมาก ขนาดที่ฉันสามารถมองเห็นนักดำน้ำทั้ง 6 คนได้อย่างดีทั้งที่ไม่ได้อยู่ใกล้กันมาก และเมื่อมองขึ้นข้างบน ฉันเห็นผิวน้ำได้อย่างชัดเจน นั่นหมายถึงว่า น้ำใสขนาดที่มองเห็นพื้นทรายได้ถึง 6.8 เมตร ถ้าเป็นสิมิลันบางครั้งเราสามารถมองเห็นพึ้นทราย 20-30 เมตรจากบนเรือได้ แต่เกาะสาก university ที่ 6.8 เมตรนี้เรียกว่า โชคดีสุดๆ
ความโชคดีไม่ได้หมดลงแค่นั้น เมื่อลงไปถึงพื้นทราย ยังไม่ได้ปรับอะไรมากมาย ฉันเหลือบไปเห็นเจ้าปลาหมึกโออิชิอยู่ที่ปากขวดเบียร์ ใช้หนวดที่เป็นตุ่มๆ เหมือนตัวดูดกระจก ดูดเปลือกหอยอันเล็กๆ ปิดปากขวดไว้ มันช่างไม่รู้เลยว่า ขวดเบียร์นี่มันใส มองเข้าไปก็เห็นตัว ไม่ต้องเอาเปลือกหอยมาปิดหรอก ฉันสังเกตเห็นตาสระอิของมันก่อน พอฉันว่ายเข้าไปใกล้มันก็เอาหนวดปลาหมึกดูดเปลือกหอยปิดปากขวด ฉันได้แต่ชี้ให้เพื่อนๆ ดูในขวด ยังไม่ทันได้ขยับไปไหน buddy ของฉันก็ส่งสัญญาณเคาะแท็งค์ให้ไปดูนูดี้ตัวจิ๋ว ยาวประมาณ 1 cm ตามด้วย ปลานกกระจอก Slender Seamoth หรือจะแปลว่า ปลาหุ่นดี?? หรือเล่นคำพ้องเสียง เป็น Surrender Seamoth ปลายอมแพ้ดี?? คิดไปเรื่อยเปื่อยระหว่างดำน้ำ เพราะไหนๆ ก็คุยกับใครไม่ได้แล้ว
การดำน้ำพื้นทรายหาดูตัวเล็กตัวน้อยนั้น ไม่ต้องตีฟินหรือตีขาตลอดเวลา เพราะเราไม่ได้ไปว่ายน้ำแข่งโอลิมปิก และอ่าวเกาะสากนี้ไม่ได้ใหญ่โตเป็นสนามฟุตบอล ค่อยๆ ไป ค่อยๆ ก้มหน้าก้มตาหาอะไรบนพื้นทรายดู หากจะดำน้ำติดพื้นทราย เราควรที่จะพับขาขี้นมาแล้วตีฟินข้างบน ไม่ให้กวนทรายขึ้นมา ดำน้ำให้ได้แบบนี้ และที่เกาะสาก university นี้ เราเรียกเป็นศัพท์ Technical ว่าการดำน้ำแบบ Muck Diving หรือการดำน้ำโคลน แต่จะให้ฉันแปล ฉันก็ต้องบอกว่า มันคือ มักไดฟ์วิ่ง หรือ มัก คำภาษาอีสานที่แปลว่า ชอบ รวมๆ กันแปลว่า ชอบการดำน้ำ เพราะถ้าไม่ชอบดำน้ำจริงๆ คงไม่มาดำน้ำดูทรายที่ไม่ขาวสะอาด กับน้ำทะเลสีเขียวขมุกขมัว และดูขยะตามพื้นทรายแบบนี้
วิธีการตรวจเช็คว่าเราทำทักษะการดำน้ำแบบ Muck Diving ได้ดีหรือไม่ ให้ดำน้ำไป หันกลับดูข้างหลังหน่อยว่า ตัวเองตีฟินเป็นฝุ่นฟุ้งขึ้นมารึเปล่า และค่อยๆ ปรับการตีฟินจนสามารถหันหลังกลับไปเห็นคนข้างหลังได้ (ไม่ใช่เห็นแต่ฝุ่น) เป็นนักดำน้ำนะไม่ใช่กระทิง ไปไหนมาไหนไม่ต้องบอกใครก็ได้ว่าทางนี้ตัวเองผ่านมาแล้ว
ฉันบอกให้เพื่อนฉันดำน้ำไปทางทิศเหนือ ฉันจะปิดท้ายให้ ดำไปเรื่อยๆจนถึงความลึก 10 เมตรกว่าๆ ฉันต้องตกใจเมื่อเงยหน้าขึ้นมา
"อะไรอ่ะ คุ้นๆ เหมือนเรือเลย"
"แล้วเรืออะไร ทำไมมาอยู่ในน้ำ"
"เฮ้ย เรือจมหนิหว่า มาได้ไงอ่ะ" ทั้งหมดนี้คิดอยู่ในใจเสียงดังๆ
"นี่มันที่ไหนอ่ะ เรือจมใกล้หาดอย่างนี้ที่เคยดำน้ำมา อยู่ที่ Philippines แล้วนี่เราดำน้ำอยู่ที่ไหนหว่า"
ดูไดฟ์คอมอีกที 10.4 เมตร "ไม่ได้เมาไนโตรเจนหนิหน่า"
ล้างหน้ากากสักหน่อย "ก็ไม่ได้ตาฝาดหนิ"
หันไปมองเพื่อนที่มัวแต่มองเข็มทิศว่าจะไปทางไหน จนว่ายน้ำเลยเรือจมลำเท่าเรืออยู่ข้างหน้า ตะโกนเรียกก็ไม่ยิน จนฉันต้องเคาะแท็งค์เรียกความสนใจให้หันไปมองเรือจม เรือดูใหม่มาก ใหม่เหมือนกับว่าเมื่อกี๊เห็นอยู่ข้างบน หน้าตาเหมือนๆ กันแบบนี้ เป็นเรือแบบเดียวกับที่พานักดำน้ำมาดำน้ำเลย สีขาวฟ้า มองไปเห็นชื่อเรือที่หัวเรือ เขียนว่า ทะเลควีน 2 ฉันต้องเปลี่ยนแผนการดำน้ำกระทันหัน โดยขอดำดูรอบเรือหน่อย
ไม่เห็นมีใครเคยบอกเลยว่า ที่เกาะสาก university มีเปิดสอนวิชาเรือจมแล้ว ความลึกกำลังดีเลย คนที่พึ่งเรียนดำน้ำก็ดำได้ สงสัยต้องขอมาสอนวิชาพิเศษนี้ที่นี่บ้างดีกว่า ดูๆ เรือยังดูใหม่อยู่เลย ไม่รู้ตั้งใจเอามาจมหรือมาจมเอง ดำได้แป๊ปเดียว ฉันก็บอกทุกคนให้ไปทางทิศตะวันตก เพื่อไปหาอะไรดูต่อ เพราะเริ่มรู้สึกกลัวๆ ว่า เดี๋ยวอาจจะเจอคนอยู่บนเรือ เพราะยังรู้สึกว่า เมื่อกี๊เรายังนอนอยู่ในเรือหน้าตาแบบนี้อยู่เลย
ดำน้ำต่อออกไป พวกฉันได้เจอกับแส้ทะเลและกุ้งตัวยาวตัวเบอเร่อ และยังมีปะการังเหมือนใบหูช้างต้นใหญ่มาก ใหญ่แบบว่าฉันเข้าไปอยู่ข้างในได้ทั้งตัว ที่เกาะสาก มันมาจากไหน ดำน้ำมาตั้งนานไม่เคยเจอ แต่ก็นั่นด้วย กองยางที่เคยเจอก็ไม่ได้พบ สงสัยดำน้ำคนละจุด แล้วเผลอแป๊ปเดียวเวลาหมดอีกแล้ว ก่อนขึ้นที่เกาะสากนี้ แม้จะไม่ได้ยินเสียงอะไร ฉันก็ต้องปล่อย Sausage ขึ้นสู่ผิวน้ำ เพื่อส่งสัญญาณบอกพวกเรือเร็วและ jet ski ว่า มีนักดำน้ำอยู่ในน้ำ อย่าขับเข้ามาใกล้ และเมื่อจะขึ้นสู่ผิวน้ำจริงๆ ฉันจะเอา Octopus ออกมาและกดปุ่มให้ให้อากาศไหลออกมาเยอะๆ เหมือนน้ำเดือด เพื่อที่จะบอกอีกทีว่ามีนักดำน้ำอยู่ข้างล่าง แล้วจึงขึ้นสู่ผิวน้ำ
เกาะสาก university วันนี้ช่างไม่ธรรมดา ดูดี มีอะไรให้ดูมากมาย และยังเปิดคอร์สพิเศษ วิชาเรือจม ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นคอร์สโปรโมชั่นรึเปล่า ใครสนใจรีบๆ จับจองไปเข้าชั้นเรียนที่มหาลัยเกาะสากก่อนโปรโมชั่นจะหมดและของมีจำนวนจำกัด