4 ลูกโลด :wall:
ไม่ใช่เดิน 4 ลูกนะ ตะคริวกิน ขึ้น 4 ลูกเลย ฮี่ๆๆ :wacko:
ลองอ่าน ปสก ของคนที่ไปสิ
อันนี้ ก๊อปมาบางส่วน เด้อ
"ประทับใจจริงจริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เขาหลวง
อุทยานแห่งชาติรามคำแหง (เขาหลวง) ทางขึ้นโหดยิ่งกว่าภูกระดึง แต่เมื่อไปถึงยอดเขาแล้ว
คุณจะได้สัมผัสกับปุยเมฆที่ลอยผ่านหน้า โอ้โฮ ทั้งหมดคือคำบอกเล่าที่เราได้ฟังมาจากเพื่อนที่มีประสบการณ์ปีนเขาหลวง
เมื่อปีที่แล้ว ฟังแล้วไม่ไปได้อย่างไร ว่าแล้วกลุ่มนางฟ้ากับลูกหมูของเรา 9 ชีวิต ก็มุ่งหน้าสู่เขาหลวง
เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2543 เราเข้าร่วมโครงการวันเขาหลวงโลกด้วย มีการแข่งขันปีนเขาหลวง
แต่กลุ่มของเราก็มิบังอาจจะประชันกับใครอยู่แล้ว เนื่องจากเจียมตัวกันทุกคน (สมาชิกในกลุ่มบางคนยังไม่เคยปีนเขามาก่อน)
เราไปถึงเขาหลวงประมาณ 10.30 น. พอไปถึงผู้เข้าแข่งขันคนแรกก็พิชิตยอดเขาหลวงพอดี
ด้วยเวลาประมาณ 40 นาที หลังจากที่จัดการยกข้าวของสัมภาระให้ลูกหาบเรียบร้อยแล้ว
กลุ่มนางฟ้ากับลูกหมู ก็เริ่มต้นการปีนเขา อ้อ ลืมบอกที่มาของชื่อกลุ่ม นางฟ้าก็หมายถึงสาวๆหุ่นเกือบจะบอบบาง 4 นาง
ส่วนลูกหมูก็หมายถึงหนุ่มๆหุ่นเกือบจะผอมงัยจ๊ะ
กลับมาที่เรื่องราวการปีนเขาก่อน พวกเราเตรียมตัวแยกอาหารเที่ยงไว้ทานระหว่างทางด้วยนะ แต่แหมลืมแยกยาดม
ยาหม่อง ออกมา เวลาเดินแซงใครที่มียาดมก็แอบดมกับเขาด้วย บางคนเหมือนทาตัวด้วยแอมโมเนียเลย หอมดี
ทางขึ้นเขาหลวงระยะทางประมาณ 3.7 กิโลเมตร ยอมรับว่าชันมาก ชันตลอดทางเลย มีทางราบน้อยมาก
โหดกว่าภูกระดึงจริงๆ ทางขึ้นมีเงาไม้สูงใหญ่ตลอดทางเนื่องจากเป็นป่า แต่เมื่อไหร่ที่หยุดพักจะมีแมลงต่างๆบินมาทักทาย
ทั้งยุง ผึ้ง ต่อ และอื่นๆ เราใช้เวลาขึ้นประมาณ 4 ชั่วโมง พอเกือบจะถึงยอดเขา
พวกที่แข่งขึ้นเขาหลวงก็ถือถ้วยรางวัลวิ่งสวนเราลงมา เราก็งงถามเขาว่าจะรีบไปไหน เขาบอกว่าจะรีบลง เราก็งง
บางคนแซวกลุ่มพวกเราว่า เขานึกว่าเขาช้าแล้วนะยังมีกลุ่มที่ช้ากว่าเขาอีกเหรอ เราเลยชิงตอบว่า
เราเพิ่งขึ้นมาเมื่อ 1 ชั่วโมงที่แล้วเอง เฮ(คุย คุย จังเลย) มีเฮเลย
เราขึ้นถึงยอดเขาพบเตนท์ที่เจ้าหน้าที่กางไว้ให้อย่างเรียบร้อย อากาศยังร้อนอยู่เลย แต่พอตกเย็นอากาศเปลี่ยนทันที
น้ำค้างตกแรงพอสมควร เรารอลูกหาบจนเย็นกว่าเขาจะขนของขึ้นมาเนื่องจากวันนั้นมีคนขึ้นเยอะ เนื้อตัวเต็มไปด้วยเหงื่อ
อยากรีบอาบน้ำแต่ก็ไม่สามารถ รอลูกหาบจนเกือบ 6 โมงเย็น อาบน้ำสระผม ฮื่ม เย็นเหมือนทุกที่เลยนะ
อาบเสร็จรู้สึกอุ่นเลยเพราะน้ำเย็นมากก
ตกกลางคืนหลังจากรับประทานอาหาร และร่วมรอบกองไฟแล้วเราก็เข้านอนด้วยความเหนื่อยอ่อน
เพื่อที่จะรีบตื่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่อนิจจา รุ่งเช้าเมฆเยอะมากก 7 โมงกว่าพระอาทิตย์ยังไม่โผล่เลย แงๆ
อุตส่าห์ปีนขึ้นไปดู อากาศก็เริ่มร้อน เมฆลอยผ่านหน้าอย่างที่เพื่อนบอกก็ม่ายมี เอ๊าไว้รอดูอีกทีพรุ่งนี้เช้าก็ได้
รีบกลับมากินข้าว อาบน้ำเตรียมเสบียงไปเดินเที่ยว แต่พอเราเดินไปได้ซักหน่อยก็นึกได้ลืมกล้องถ่ายรูป
ต้องรีบวิ่งกลับไปเอา แต่พอเดินไปเรื่อยๆ ไม่เห็นมีวิวสวยๆให้เราถ่ายเลย แถมเขาแต่ละลูกก็แทบไม่มีต้นไม้ใหญ่
ร้อนก็ร้อน รู้สึกผิดหวัง ตัดสินใจทานข้าวแล้วลงจากเขาหลวงตอนบ่ายวันนั้นเลย
ทุกคนลงความเห็นว่าไปหาที่เที่ยวที่อื่นดีกว่า อยากเล่นน้ำตกเย็นๆ ตกลงเราก็เริ่มต้นลงจากเขา ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
แต่ใช้กล้ามเนื้อขาแทบทุกส่วน อยากบอกว่าตอนลงโหดกว่าตอนขึ้น และเป็นสาเหตุให้ทุกคนยกขาแทบไม่ขึ้นในวันต่อมา
ยิ่งเวลาลงบันไดสุดจะบรรยายเลย วันต่อมากลุ่มของเราไปเที่ยวน้ำตกชาติตระการก่อนจะกลับกรุงเทพ
ประทับใจน้ำตกที่นี่มาก น้ำเย็น ใส แถมมีหาดทรายคล้ายชายทะเลด้วย น้ำตกมี 7 ชั้นแต่กลุ่มของเราไปได้ก็แค่ชั้นแรก
แต่ก็คุ้มค่า ชั้นแรกยังสวยขนาดนี้แล้วชั้นต่อไปจะสวยขนาดไหนน๊า"
ถ้าอยากอ่านอีก กดนี่เลยจ้า http://www.thaipark123.com/memory.cfm?p ... tionalpark' target='_blank'>
http://www.thaipark123.com/memory.cfm?p ... nalpark>
^o^