
จากความฝันสู่ความจริง
มาแชร์ประสบการณ์เล็กๆน้อยๆครับ
เพราะผมอยากให้ทุกๆคนรู้ว่า
ความฝันไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อมครับ
เมื่อตอนผมได้มีโอกาสฝึกงานในกองถ่ายโฆษณา
มีคนถามผมว่า " ถ้าเป็นไปได้ อยากทำงานกับใครมากที่สุด ? "
ผมเหรอ? ผมอยากทำงานกับดาราหนังมากกว่า
ซึ่งเป็นเรื่องไกลตัวมาก สำหรับผม ณ ตอนนั้น
แค่ได้เจอซูเปอร์โมเดลของญี่ปุ่น จาก โฆษณาชิ้นแรก ผมก็ตื่นเต้นจะแย่อยู่แล้ว
ยิ่งได้รู้ว่าเป็นลูกสาวของดาราที่ผมชื่นชอบคนหนึ่ง ยิ่งเก็บอาการไว้อย่างยากลำบาก
เธอคนนั้นชื่อ Anne Watanabe ครับ

บางคนอาจจะคุ้นชื่อคุ้นนามสกุลกันบ้าง เค้าเป็นลูกสาวของดาราเอเชียแนวหน้าอย่าง...
Ken Watanabe จากเรื่อง The Last Samurai, Memiors of a Geisha, Letters from Iwo Jima
กลับมาที่คำถามครับ ผมอยากทำงานกับใครมากที่สุด ?
แน่นอนว่า ผมเป็นแฟนตัวยงของ Gong Li (Miami Vice, Memiors of a Geisha)
กับความสามารถทางการแสดงที่น่าเหลือเชื่อ ดาราระดับตำนานเอเชีย อย่าง Chow Yun Fat
และที่พูดถึงไปแล้วคือ Ken Watanabe ครับ บางคนอาจจะคุ้นแต่ชื่อ นึกหน้าไม่ออก
มีรูปมาฝากกันครับ




เอาหล่ะ บางคนอาจจะคิดว่า เอ๊ะ? แล้วทำไมมี John Cusack โผล่มาด้วย?
คนนี้แหละครับ ที่เป็นคนที่ทำให้ฝันผมเป็นจริง จะเป็นยังไงนั้น ติดตามกันเลยครับ
พอผมทำโฆษณาตัวแรกเสร็จ แหะๆ ฟังดูดี แต่ผมก้ไปเปนเด็กวิ่งเท่านั้นแหละครับ
ผมก็กลับไปเรียนของผมปกติ จนปิดเทอมใหญ่ครับ ว่างสิครับทีนี้
ก็เหมือนจะรู้ใจ มีพี่ที่เคยทำงานด้วยครับ โทรมาถามว่า ว่างรึเปล่า?
มีงานโฆษณาให้ทำ ให้ไปดูแลลูกค้า เอเจนซี่ ที่มาจากเมืองนอกครับ
เราก้โอเคๆ ว่างซะด้วย ก้เลยไปทำครับ ไปถ่ายกันที่ชุมพรสามวัน
กำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ครับ พี่ๆทีมงานก้นั่งคุยกันตามปกติ
" พี่ๆ หนูขอทำหนังกงลี่ได้ป่ะ อยากทำมากๆเลย "
ผมแน่นิ่งไปพักใหญ่ เพื่อตั้งใจฟังว่าผมไม่ได้ฟังผิดไป
" อะไรนะพี่ ?? กงลี่จะมาถ่ายหนังเมืองไทยเหรอ ??? "
"อืมใช่ๆ"
จากนั้นผมก้บ้าคลั่งไปเลยครับ
" พี่ๆๆ ให้ผมทำอะไรก็ได้นะๆๆๆ เสิร์ฟน้ำ บัญชี ยกไฟ อะไรก็ได้พี่ ทำหมดเลย "
" เอ่อ..."
" นะๆ พี่ ผมอยากเห็นกงลี่ตัวเป็นๆบนกองถ่ายอะ ผมนอนตายตาหลับเลยนะพี่ "
" ขนาดนั้นเลยเรอะ "
ผมไม่ได้ฝันไป คนที่ผมอยากจะเห็นเค้าแสดงบนกองถ่ายจริงๆจังๆ กำลังจะมาจริงๆ !
แล้วงานโฆษณาชิ้นนั้นก็เสร็จไป ผมก้ไปดำน้ำที่สิมิลันพักผ่อน
แน่นอนว่า กับ FreedomDive
ผมกลับมาทำงานกับ หนัง Hollywood เรื่องแรกของผม
เป็น Production Assistant ครับ
ทำงานในออฟฟิศ จัดการเรื่องเอกสาร วิ่งซื้อของให้กองถ่ายละครับ
เดี๋ยวยังไงไม่ลงรายละเอียดเรื่องนี้มาก ขอข้ามไปอีกเรื่องเลยละกันครับ
ผมก้หาคอยอัพเดทเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ตลอดเวลาครับ
อ้อ ลืมไป หนังชื่อ Shanghai ครับ
บางคนอาจจะสงสัยว่า เอ๊ะ ชื่อเรื่อง เซี่ยงไฮ้ ไหงมาถ่ายที่ไทยละ?
จีนเค้าแบนครับ เค้าแบนบท เพราะมันเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของจีนครับ
เค้าเลยย้ายไปถ่ายที่อังกฤษก่อน แล้ว ค่อยมาไทยครับ
พอผมรู้ตัวนักแสดงเท่านั้นแหละครับ ยิ่งบ้าหนักเลยครับ
John Cusack
Gong Li
Chow Yun Fat
Ken Watanabe
Rinko Kikuchi
มันจะอะไรกันขนาดนี้ ขอเถ้ออ อะไรก้ได้ ผมทำหมด
พร่ำเพ้อ พรรณนา ถึงขนาดเก็บไปฝันเลยทีเดียว
และแล้วผมก้หาทางไปสัมภาษณ์สมัครงานหนังเรื่องนี้จนได้
ต้องไปสัมภาษณ์กับ Producer ครับ
เราไปอย่างแรก ก้ขอเป็นผู้ช่วย Gong Li เลยครับ ฮี่ๆ ไม่ค่อยเลย
เค้าก้ถามว่า พูดจีนได้รึป่าว ? หน้าแตกยับเยินสิครับ ไม่ได้อะ แหะๆ
แต่พูดญี่ปุ่นได้บ้างนะ ในใจเราก้แอบลุ้นว่า เอาหน่า ไม่ได้ Gong Li ก้ Ken ก้ได้อะ
เริ่มโลภมากขึ้นเรื่อยๆ เห้อ รับไม่รับ เค้ายังไม่บอกเลย
พอสัมภาษณ์เสร็จครับ เค้าบอกว่าจะโทรมาบอกผลอาทิตย์หน้า ....
เราก้ รอ ร้อ รอ อาทิตย์นึงผ่านไป ไม่มีโทรศัพท์เลย.....
เอ่อ...เริ่มจิตตก...ฮืออ เค้าไม่เอาเราแน่เรย....เอายังงัยดี
เพราะช่วงนั้นจะต้องตัดสินใจว่า ดรอปเรียนเพื่อทำงาน หรือ ตกงานแล้วได้เรียน
เลยตัดสินใจโทรไปถามเค้าเลยว่า ผมถูกจ้างรึป่าว แหะๆ
เหมือนจะยุ่งนะครับ เลยไม่ได้โทรมา พี่เค้าตัดสินใจละ
ว่าพลินเป็น ... เป็น .... แปปนึงนะ...หยิบโพยก่อน...
เป็น.... เป็น.... เอ่อ....
เป็น....
เป็น....
เป็น....
" Assistant to John Cusack "

" Hi ! I'm Plinn, I'm gonna be your personal assistant while you're staying here. "
คือประโยคแรกที่ผมพูดเมื่อเจอกับ John ที่สนามบิน
รุสึกบอกไม่ถูก เวลาเจอใครที่มีชื่อเสียงมากๆ บอกได้เลย
เพราะเค้าจะมีรัศมีแผ่ออกมารอบข้างจนเรารู้สึกได้
วันสองวันก่อนถ่ายจริง เค้าก้ให้พาไปที่ดีๆในกรุงเทพหน่อย
ผมพาไป Sirocco Bar ที่ State Tower ก้ได้มีโอกาสคุยกับเค้า
เรื่องสัพเพเหระ ตั้งแต่ การเมือง ประวัติศาสตร์ ยัน ทิศเหนือใต้ออกตก
จนเค้าถามว่าผมมาทำงานนี้ได้อย่างไร ผมก็เล่าให้เค้าฟัง
เค้าก้หัวเราะ พร้อมบอกว่า " Sorry that I'm not Gong Li. "
ฮาครืนกันเรยทีเดียว ฮ่าๆ
ก้มาถึงวันถ่ายจริงคับ เมื่ออยู่บนกองถ่าย ผมก้ทำทุกอย่างหมดคับ
ประสานงาน ดูคิว เช็คเวลา เสิร์ฟอาหาร ให้น้ำ เก็บของ ต่างๆนาๆ
เป็นอะไรที่ดูน่าเบื่อนะ? แต่ผมสนุกกับมันมากๆเลยทีเดียว
ก็เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ
จนถึงวันที่ Gong Li จะมาถ่ายเป็นวันแรกสิครับ
ตื่นเต้นสุดๆเลย จะได้เห็นตัวจริงแล้ว เหมือน John จะรู้ทัน
เค้าก้ถามว่าเป็นยังไง ? ตื่นเต้นมั้ย ? จะได้เจอกงลี่แล้ว
ผมก้บอกว่า ตื่นเต้นสิ ดีใจมากๆเลย ฮ่าๆ
จนพอเข้าฉาก John เค้าก้เรียกผม เข้าไปให้รู้จักกับกงลี่
ห๊า...นี่มันจริงเร๋อเนี่ย ไม่คิดว่าจะได้รู้จักขนาดนี้
หวังว่าแค่เห็นเค้าแสดงก้พอ .....
นี่ พลิน นะ คอยช่วยไอระหว่างอยู่ที่นี่ และก้มีกระซิบนิดนึง
คงบอกว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้ อะไรประมานนั้นละมั้ง
กงลี่เค้าก้ยิ้ม ยื่นมือมาเชคแฮนด์ครับ พูดว่า
" Nice to meet you."
ผมทำอะไรไม่ถูกเลยครับ รีบเอามือเช็ดเสื้อ และเชคแฮนด์ครับ
วันนั้นก็แฮปปิ้ทั้งวันเลย ได้มีโอกาสคุยกับผู้จัดการเค้าด้วย
ก็ได้เล่าให้เค้าฟังว่า เราชอบกงลี่มาก ดรอปเรียนมาทำงานนี้เลยนะ
เค้าก้หัวเราะใหญ่เลย บอกว่า ขนาดนั้นเลยเร๋อ ?
ผมก้เอาอาหารเข้าไปวางไว้ให้ John ในเต้นท์เย็นหน่ะครับ
"Hello."
ผมนิ่งเลยครับ หันไป เป็นกงลี่นั่งยิ้มอยู่
ผู้จัดการก็บอกว่า " Say Hello to Your Idol ! "
ผมก็เซย์ฮัลโหลตอบกลับไปครับ จำได้ว่าหน้าแดงก่ำ
เค้าก้หัวเราะ และก้บอกว่าชอบหมวกผม ซื้อที่ไหน ?
ผมก้ตอบไปครับ และก้ออกมา หน้างี้บาน ทั้งวันเลยครับ
เค้าก้คอยจั๊กจี้แกล้ง ตอนผมเดินผ่านด้วยครับ น่ารักมากๆเลย
หลังจากวันนั้นผมก้ซื้อดอกไม้ไปให้บ่อยๆครับ
เพราะยังไงต้องซื้อมาแต่งในรถเทรลเลอร์ของ John อยู่แล้วครับ
เหมือนฝันเลยครับ ได้ทักทายทุกวัน ได้พูดคุย ได้รู้จัก
ได้เห็นนักแสดงมืออาชีพแสดงให้เราดูครับ ทั้ง John และ กงลี่
เอาหละครับ ตอนนี้ก้เหมือนอยากจะไปทำงานทุกๆวันและครับ
จนวันนึงผมก้บอกผู้จัดการว่า วันหยุดเนี่ย จะให้ผมพาไปไหนก้ได้นะ
เพราะ John เค้าไม่ไปไหนอยู่แล้ว แจ๊กพอตเลยครับ
ได้พากงลี่ไปช้อปปิิ้งครับ ท่านผู้อ่าน !
เด็ดกว่านี้มีอีกมั้ย? พาไปเกสร กับ เอราวัณ ครับ ได้เดินดูของ
เค้าซื้อเสื้อผ้าเป็นส่วนใหญ่ครับ จากนั้นก็ไปทานข้าวเย็นกันครับ
แฮปปี่ได้อีกครับ
เอาละสิครับ อีกสองสามวัน ป๋าโจวเหวินฟะ มาแล้ว
เข้าโหมดเดิมอีกแล้วครับ ตื่นเต้นอีกแล้ว ฮ่าๆ
ปรากฏว่า ดาราระดับตำนานคนนี้เนี่ย นิสัยดีเกินคาดมากๆครับ
เป็นกันเองกับทีมงานมากๆ เดินไปยิ้มไป จับมือจับแขน ทักทายทีมงาน
แล้วผมก้เอารูปไปให้เค้าเซ็นครับ (ได้มีโอกาสถ่ายรูปคู่)
เค้าก้ถามว่าผมอัดรูปที่ไหน ชัดดี และเค้าก้จ้องตาผมครับ
เค้าก้บอกว่า นี่ ยูรู้มั้ย วัยรุ่นญี่ปุ่นสมัยนี้เค้าใส่คอนแทคเลนสฺแบบยูนี่แหละ
และมันส่งผลต่อดวงตานะ ยูต้องไปเช็คกับหมอให้ดีๆว่ามันเหมาะกับตายูรึป่าว
เพราะยูต้องการตายูนะ เพราะตายูมีเสน่ห์
อึ้งสิครับ อึ้งอย่างเดียวเลย ยังไม่พอนะครับ เค้าถ่ายเสดแล้ว
เค้าก้กลับไปฮ่องกงครับ แต่กลับมาเซอไพรส์ทีมงานวันถ่ายวันสุดท้าย
เค้าก้เดินผ่านผมครับ ผมก้คิดว่าเค้าคงจำผมไม่ได้
ปรากฏว่าเค้าหยุดครับ จับไหล่ แล้วก้มลงมา
ไหนดูตายูซิ เลนส์มันยังอยู่นี่ ยูไม่เชื่อไอเลยนะเนี่ย แล้วก้หัวเราะ
ประทับใจมากครับ เค้าจำเราได้ นิสัยดีมากๆเลย
เป็นดาราที่ใหญ่มาก แต่นิสัยดีสุดๆเลยครับ
และแล้ว ก็ถีงคิว เคน ครับ คนนี้มาถ่ายสองวันสุดท้ายครับ
เพราะว่าถ่ายไปซะส่วนใหญ่ที่อังกฤษแล้ว
ผมได้พูดคุยกับผู้จัดการเค้าก่อน ว่าผมเคยทำงานกับลูกสาวเคนนะ
เค้าก้ตกใจใหญ่เลยครับ ไม่นึกว่าจะบังเอิญขนาดนี้
เค้าเลยไปเล่าให้เคนฟังครับ ผู้จัดการก้เรียกไปครับ
ก้ได้ถ่ายรูปกับเคน (เย้) เค้าก้บอกว่า ขอบคุณที่ดูแลลูกสาวไอนะ
และก้ถามนู่น ถามนี่ อีกนิดหน่อยครับ นิสัยดีเหมือนกันครับ
ตลกๆ แต่แอบเงียบเหมือนกันนะครับ และหลังจากนั้น
ก็ถ่ายหนังกันเสดเช้านั้นเลยครับ และก้มีการจากลา
เฮ้อ ไม่น่าเช่ือเลยว่าเรื่องทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นกับผม
เป็นประสบการณ์ที่สุดยอดเลยครับ ที่ได้มีโอกาสรู้จัก
กับคนเหล่านี้ ดีใจจิงๆคับ แหะๆ
นั่นแหละครับ ความฝันที่กลายเป็นความจิงของผม
ตอนนี้เหลืออีกนิดหน่อยคือ อยากเจอ ฉลามวาฬ อะคับ

ฮ่าๆ
