แบกเป้ไปเนปาล
- watermark
- Advanced Member
- โพสต์: 39
- meble kuchenne - tworzymyatmosfere.pl
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 11, 2005 12:28 am
- flatworm
- Advanced Member
- โพสต์: 2771
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 24, 2005 2:25 pm
- ที่อยู่: Under the sea
ทำไมปีนี้ ไปเที่ยวเนปาลกันเยอะจัง
เดี๋ยว 1 พ.ย. พี่หมอเอ้ก็ไป 1 ธ.ค. พี่ปิ๋มก็ไป เห็นรุปแล้วน่าไปมั่งเนอะ :rolleyes:
พี่ watermark ไปไงอ่ะครับ แบกเป้ไปเลยป่ะ
แล้วอากาศเป็นไงมั่งครับ เห็นบนยอดเขามีหิมะขาว แต่พี่ใส่ชุดเหมือนไม่หนาวเลย
ถ้าไปนี่ควรไปช่วงไหนอะ แล้วก็งบประมาณเป็นไงมั่งคับ
เดี๋ยว 1 พ.ย. พี่หมอเอ้ก็ไป 1 ธ.ค. พี่ปิ๋มก็ไป เห็นรุปแล้วน่าไปมั่งเนอะ :rolleyes:
พี่ watermark ไปไงอ่ะครับ แบกเป้ไปเลยป่ะ
แล้วอากาศเป็นไงมั่งครับ เห็นบนยอดเขามีหิมะขาว แต่พี่ใส่ชุดเหมือนไม่หนาวเลย
ถ้าไปนี่ควรไปช่วงไหนอะ แล้วก็งบประมาณเป็นไงมั่งคับ
diving with FreedomDIVE, every site so fun.
น้ำใสๆ ดำชิวๆ นี่แหละ คือการดำน้ำที่มีความสุขที่สุดในโลก
MSN: earth_maisak at hotmail dot com
Email: supasate at freedomdive dot com
น้ำใสๆ ดำชิวๆ นี่แหละ คือการดำน้ำที่มีความสุขที่สุดในโลก
MSN: earth_maisak at hotmail dot com
Email: supasate at freedomdive dot com
อยากไป อยากไป ไปด้วยคน...
"ชีวิตดีๆหาได้ไม่ยากเลย หัดมองโลกในแง่บวก คิดดี ทำดีกับผู้อื่น ก็พอแล้ว อย่ามองโลกแค่เพียงสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า!!!"http://kkg1.multiply.com/' target='_blank'>http://kkg1.multiply.com/>
โห สวยจัง เมื่อปี 49 ผมก็ไปมาแต่ว่าเกิดเหตุการณ์ที่ รัฐบาลกับลัทธิเหมา สู้รบกันอยู่ก็เลยเข้าไปได้แค่วันเดียวเพราะเค้าประกาศ เคอร์ฟิว คงต้องหาโอกาสไปอีกรอบแล้วหล่ะ
"Work Hard And Dive Hard Too"...Your Freedom to explore 70% of the earth"Only those who dare to fail greatly can ever achieve greatly". Robert F Kennedyhttp://www.facebook.com/?ref=home#!/Scubalism' target='_blank'>http://www.facebook.com/?ref=home#!/Scubalism>
10 คืน 11 วัน หมดค่าใช้จ่ายไปประมาณ 11,000 บาท จ้ะ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน นะ ( 17,000 บาท )
อัตราแลกเปลี่ยน ( 1 บาท = 2 รูปี )
ค่าเข้าชมตามสถานที่ต่างๆ ทั้งหมด ( บางแห่งค่าเข้าชมค่อนข้างแพง ถึง 10 เหรียญ )
ค่ากิน ( ข้าวเปล่าๆ จานละ 110 รูปี = 55 บาท ) กับข้าว 200 ขึ้นไป
ค่าน้ำดื่ม : น้ำเปล่า 10 - 15 รูปี ถ้าเข้าป่าขึ้นเขาไปแล้ว ขวดละ 60 - 80 รูปี
ค่าที่พัก : 200 - 500 รูปี หาได้ตามชอบใจ ( แต่ที่พักบนยอดเขา นากาก็อต ที่ " View Point " โรงแรมบนยอดเขา ในเมืองกาฐมาณฑุ คืนละ 22 เหรียญ เป็นอย่างต่ำ )
ค่ารถแท๊กซี่ : บอกราคากันโหดมาก ต้องต่อรองเยอะๆ ( เคยต่อราคา ได้ 1000 รูปี ได้เหลือ 200 รูปี ) : จะไปไหน-มาไหน ทุกที่ เนปาล มีแต่รถแท็กซี่เป็นหลักเท่านั้น
ค่าลูกหาบตลอดการเดินป่า : ลูกหาบชาวบ้าน ( ไม่มีบัตร ) วันละ 300 รูปี แต่อาจเสี่ยงกับการถูกทิ้งงานกลางป่า เพราะจู่ๆจะไม่หาบต่อแล้ว ก็มี ถ้าลูกหาบมีบัตร ( ขึ้นทะเบียนถูกต้อง ) วันละ 600 รูปี
ค่ารถบัสปรับอากาศ ( จากกาฐมาฑุ ไป โพครา ) 18 เหรียญ ( 6-7 ช.ม. )
ทริปนี้ จริงๆ งบประมาณทั้งหมด ไม่ถึง 11,000 บาท หรอกจ้ะ เพราะทริปนี้ เรา ดันเลือก เดินทางกลับจาก เมืองโพครา ---> เมือง กาฐมาณฑุ โดย " เครื่องบินเล็ก " เป็นเงิน 85 เหรียญ
( ใช้เวลา เพียง 25 นาที ) แทนที่จะนั่งรถบัสกลับอย่างเดียวกับขามา
สรุปว่า ทริปเนปาล 10 คืน 11 วัน ถ้าใครไม่นั่งเครื่องบินเล็ก และ ไม่ช็อปปิ้ง เกิน 1 พันบาท งบประมาณคงอยู่ราวๆ 7,000 บาท ]เท่านั้น ( เราดันไปเสียเงินซื้ออุปกรณ์ Trekking เพิ่ม เช่น ไม้เท้า , ถุงนอน , กระติกน้ำเดินป่า , เสื้อกันหนาว เพราะเมือง โพครา เป็นจุดศูนย์รวมของนักเดินป่า-ปีนเขา ทำให้มีอุปกรณ์พวกนี้ แบบ ของดี ราคาถูก คนเลยไปกันแล้ว มักหาซื้อไว้ใช้กัน ( ถุงนอนยี่ห้อดีๆ ราคาในไทยประมาณ 3 - 4 พันบาท สามารถซื้อได้ในราคา 1200 บาท ที่โพครา จ้ะ )
อัตราแลกเปลี่ยน ( 1 บาท = 2 รูปี )
ค่าเข้าชมตามสถานที่ต่างๆ ทั้งหมด ( บางแห่งค่าเข้าชมค่อนข้างแพง ถึง 10 เหรียญ )
ค่ากิน ( ข้าวเปล่าๆ จานละ 110 รูปี = 55 บาท ) กับข้าว 200 ขึ้นไป
ค่าน้ำดื่ม : น้ำเปล่า 10 - 15 รูปี ถ้าเข้าป่าขึ้นเขาไปแล้ว ขวดละ 60 - 80 รูปี
ค่าที่พัก : 200 - 500 รูปี หาได้ตามชอบใจ ( แต่ที่พักบนยอดเขา นากาก็อต ที่ " View Point " โรงแรมบนยอดเขา ในเมืองกาฐมาณฑุ คืนละ 22 เหรียญ เป็นอย่างต่ำ )
ค่ารถแท๊กซี่ : บอกราคากันโหดมาก ต้องต่อรองเยอะๆ ( เคยต่อราคา ได้ 1000 รูปี ได้เหลือ 200 รูปี ) : จะไปไหน-มาไหน ทุกที่ เนปาล มีแต่รถแท็กซี่เป็นหลักเท่านั้น
ค่าลูกหาบตลอดการเดินป่า : ลูกหาบชาวบ้าน ( ไม่มีบัตร ) วันละ 300 รูปี แต่อาจเสี่ยงกับการถูกทิ้งงานกลางป่า เพราะจู่ๆจะไม่หาบต่อแล้ว ก็มี ถ้าลูกหาบมีบัตร ( ขึ้นทะเบียนถูกต้อง ) วันละ 600 รูปี
ค่ารถบัสปรับอากาศ ( จากกาฐมาฑุ ไป โพครา ) 18 เหรียญ ( 6-7 ช.ม. )
ทริปนี้ จริงๆ งบประมาณทั้งหมด ไม่ถึง 11,000 บาท หรอกจ้ะ เพราะทริปนี้ เรา ดันเลือก เดินทางกลับจาก เมืองโพครา ---> เมือง กาฐมาณฑุ โดย " เครื่องบินเล็ก " เป็นเงิน 85 เหรียญ

สรุปว่า ทริปเนปาล 10 คืน 11 วัน ถ้าใครไม่นั่งเครื่องบินเล็ก และ ไม่ช็อปปิ้ง เกิน 1 พันบาท งบประมาณคงอยู่ราวๆ 7,000 บาท ]เท่านั้น ( เราดันไปเสียเงินซื้ออุปกรณ์ Trekking เพิ่ม เช่น ไม้เท้า , ถุงนอน , กระติกน้ำเดินป่า , เสื้อกันหนาว เพราะเมือง โพครา เป็นจุดศูนย์รวมของนักเดินป่า-ปีนเขา ทำให้มีอุปกรณ์พวกนี้ แบบ ของดี ราคาถูก คนเลยไปกันแล้ว มักหาซื้อไว้ใช้กัน ( ถุงนอนยี่ห้อดีๆ ราคาในไทยประมาณ 3 - 4 พันบาท สามารถซื้อได้ในราคา 1200 บาท ที่โพครา จ้ะ )
สภาพอากาศ ช่วงที่ดีที่สุดในการท่องเที่ยวเนปาล คือ ช่วงตุลา นี่แหละจ้ะ เพราะ ท้องฟ้าใส สภาพอากาศ ไม่หนาวเกินไป ไม่มีหมอก ไม่มีฝน ถ้าเลือกไปช่วงธันวา อากาศจะหนาวมากเกินไป หมอกลงจัด ถ่ายรูปอะไรก็ไม่สวย เพราะมองไม่เห็นวิว แต่ถ้าไปเดือนเมษา อากาศคงค่อนข้างร้อน ไม่เย็นสบายตัว แต่ในป่า จะเต็มไปด้วยกุหลาบ 1000 ปี สีแดง เต็มไปหมด ( บังเอิญ เราไม่ได้สนใจ และ ไม่ได้ชอบกุหลาบพันปี อะไรเท่าไหร่ เลยไม่ได้คิดจะไปช่วงเดือนเมษา )
ช่วงที่ไปครั้งนี้ อากาศเย็นสบายตัว ในเมือง ก็เพียงเสือแขนยาว หรือ มีผ้าพันคอ ก็พอ แต่ .. ถ้าเดินเข้าป่า ขึ้นเขาแล้ว อากาศหนาว ต้องใส่เสื้อกันหนาวจิงๆจังนะ เช้ามืด / กลางคืน ประมาณ 3 - 5 องศา จ้ะ ( ขนาดเดินป่าตอนกลางวัน ยังต้องใส่เสื้อกันหนาว หรือไม่ก็ต้องเอาผ้าพันคอผืนใหญ่ๆ มาคลุมเลย ) ขอย้ำ ป่าสวยมาก มีน้ำตกให้เห็นเป็น 10 ๆ แห่ง เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ป่าบางช่วงประมาณว่า เดินอยู่ใน " มหา อ่างกาหลวง " เลย เดินอยู่อย่างนั้น เป็น 2 - 3 ชั่วโมง
บ้านเล็กๆในกลางป่า น่ารักมาก ไม่ต่างอะไรราวกับว่า เราเดินไปเจอบ้านในเทพนิยาย รูปทรง หลังคา ปล่องควัน ลำธารน้ำ ( ไม่ใช่ลำธารน้ำธรรมดา เพราะเป็นน้ำที่มีสีเขียวหยก ซะด้วย ยิ่งเพิ่มความสวยเข้าไปกันใหญ่ )
ช่วงที่ไปครั้งนี้ อากาศเย็นสบายตัว ในเมือง ก็เพียงเสือแขนยาว หรือ มีผ้าพันคอ ก็พอ แต่ .. ถ้าเดินเข้าป่า ขึ้นเขาแล้ว อากาศหนาว ต้องใส่เสื้อกันหนาวจิงๆจังนะ เช้ามืด / กลางคืน ประมาณ 3 - 5 องศา จ้ะ ( ขนาดเดินป่าตอนกลางวัน ยังต้องใส่เสื้อกันหนาว หรือไม่ก็ต้องเอาผ้าพันคอผืนใหญ่ๆ มาคลุมเลย ) ขอย้ำ ป่าสวยมาก มีน้ำตกให้เห็นเป็น 10 ๆ แห่ง เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ป่าบางช่วงประมาณว่า เดินอยู่ใน " มหา อ่างกาหลวง " เลย เดินอยู่อย่างนั้น เป็น 2 - 3 ชั่วโมง
บ้านเล็กๆในกลางป่า น่ารักมาก ไม่ต่างอะไรราวกับว่า เราเดินไปเจอบ้านในเทพนิยาย รูปทรง หลังคา ปล่องควัน ลำธารน้ำ ( ไม่ใช่ลำธารน้ำธรรมดา เพราะเป็นน้ำที่มีสีเขียวหยก ซะด้วย ยิ่งเพิ่มความสวยเข้าไปกันใหญ่ )