เกาะตาชัย

ระดับการดำน้ำ นักดำน้ำที่มีประสบการณ์
ความลึก 15 - 30 เมตร
ทัศนวิสัยใต้น้ำ 20 - 30 เมตร
กระแสน้ำ ปานกลาง - แรง
อุณหภูมิน้ำ 27-30 °C
จุดดำน้ำ กองหินตาชัย (กองใต้), กองหินตาชัย (กองเหนือ), แนวปะการังเกาะตาชัย (Tachai Reef)
ฤดูท่องเที่ยว พ.ย. - เม.ย. (อุทยานฯ ปิดฤดูท่องเที่ยวในช่วง 1 พ.ค. - 31 ต.ค.)
สิ่งที่น่าสนใจ ฉลามวาฬ กระเบนราหู ฉลามเสือดาว ฉลามหูดำ เต่าทะเล ปลานกขุนทองนโปเลียน ปลากบ ฝูงปลาสาก ทากทะเล หมึกแคระ (Pygmy squid) ปลาการ์ตูน ปลาสินสมุทร ฯลฯ

ข้อมูลทั่วไป

เป็นเกาะเล็กๆ ที่อยู่ระหว่างหมู่เกาะสุรินทร์และหมู่เกาะสิมิลัน ปัจจุบันได้รับการผนวกรวมเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิลิมัน

แม้บนเกาะจะไม่มีที่พัก และก่อนหน้านี้มีการท่องเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับ แต่ด้วยความสวยงามของที่นี่ ทั้งหาดทรายขาวละเอียดราวกับผงแป้ง น้ำทะเลสีฟ้าใสราวกระจก แนวปะการังและฝูงปลามากมาย ทำให้หลังจากเปิดตัวได้ไม่นานนักท่องเที่ยวก็ล้นเกาะ ตามมาด้วยปัญหาขยะ การทิ้งสมอเรือในแนวปะการัง การไปรบกวนสัตว์ในธรรมชาติ เช่น จับปูไก่มาถ่ายรูป จนในที่สุด ต้องมีการประกาศปิดเกาะเพื่อฟื้นฟูอย่างไม่มีกำหนด

ปัจจุบัน การท่องเที่ยวรอบๆ เกาะนี้ ทำได้เพียงการดำน้ำลึกโดยเรือ liveaboard ซึ่งสามารถดำน้ำบริเวณกองหินตาชัยทางปลายแหลมทิศใต้ของเกาะ แต่ไม่อนุญาตให้ขึ้นไปบนเกาะ

จุดดำน้ำ (รายละเอียด)

กองหินตาชัย (กองใต้)

เป็นกองหินใหญ่รูปโดม จากยอดสูงสุดที่ความลึก 12 เมตร ลงไปถึงพื้นทรายที่ 30 เมตร เป็นจุดชมฝูงปลากลางน้ำที่ดีมาก มักมีปลาสากที่ว่ายวนเป็นฝูงใหญ่ที่ได้ชื่อว่า  “พายุปลาสาก” (Barracuda Vortex) รวมถึงเป็นจุดลุ้นพี่ใหญ่อย่างฉลามวาฬและกระเบนราหู ส่วนบนพื้นทรายในที่ลึกก็อาจเจอฉลามเสือดาวนอนอยู่

กองหินตาชัย (กองเหนือ)

เป็นกองหินที่เล็กกว่ากองใต้ ความลึกประมาณ 18 - 25 เมตร มีปะการังอ่อนและกัลปังหาสวยอลังการ จนบางคนกล่าวว่า เป็นทุ่งปะการังอ่อนที่สวยเป็นอันดับต้นๆ ในอันดามัน

แนวปะการังเกาะตาชัย (Tachai Reef)

เป็นแนวปะการังเลียบชายฝั่งตะวันออกของเกาะ ลาดชันจากชายฝั่งไปสู่ความลึกประมาณ 20-25 เมตร มีปลาในแนวปะการังหลากหลาย เช่น ปลาการ์ตูน ปลาปักเป้า ปลาหูช้าง ทากทะเลกว่า 20 ชนิด

การเดินทาง

การมาดำน้ำที่นี่มักเดินทางด้วยเรือ liveaboard ซึ่งแต่ละบริษัทอาจมีจุดลงเรือต่างกันไป มีทั้งจากท่าเรือในจังหวัดพังงา และจากภูเก็ต

 พังงา (เขาหลัก, ทับละมุ)

การเดินทางมายังพังงา (เขาหลัก, ทับละมุ)

นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางสู่จังหวัดพังงาได้หลายวิธี ทั้งทางรถยนต์ส่วนตัว รถประจำทาง

  • รถประจำทางรถโดยสารประจำทางบริษัท ขนส่ง จำกัด มีรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ กรุงเทพฯ-พังงา บริการทุกวัน ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 0 2874 6122 และบริษัทเดินรถเอกชน คือ บริษัท ลิกไนท์ทัวร์ โทร. 0 2894 6151-2 สถานีพังงา ถนนเพชรเกษม (หลังธนาคารนครหลวงไทย) โทร. 0 2641 2300, 0 7641 2014
  • รถยนต์เส้นทางแรก จากกรุงเทพฯ ไปตามทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง จากนั้นจึงเข้าสู่ตัวเมืองจังหวัดพังงา รวมระยะทาง 788 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 12 ชั่วโมง เส้นทางที่สอง จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 ไปจนถึงจังหวัดชุมพร และจากจังหวัดชุมพรให้ตรงไปใช้ทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านอำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี แล้วแยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 401 จนถึงอำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 415 ผ่านอำเภอทับปุดเข้าสู่ตัวเมืองพังงา
  • ส่วนการเดินทางโดยรถไฟจะค่อนข้างลำบาก เนื่องจากสถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี และต้องต่อรถตู้มาอีก

จังหวัดพังงาไม่มีสนามบิน หากต้องการเดินทางมาทางเครื่องบิน สามารถลงได้ 2 สนามบิน คือ

  • สนามบินระนอง (ห่างจากท่าเรือคุระบุรีประมาณ 88 กิโลเมตร) หรือ
  • สนามบินภูเก็ต (ห่างจากท่าเรือคุระบุรี 169 กิโลเมตร)

การรักษาพยาบาล

สถานพยาบาลบริเวณใกล้เคียงที่มีเครื่อง Recompression Chamber

โรงพยาบาลฐานทัพเรือพังงา ทัพเรือภาคที่ 3 (ฐานทัพเรือทับละมุ) ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ. พังงา โทร 076 453 342