เกาะพีพี

เกาะพีพี
ประเภทการดำน้ำ Boat Diving
ระดับการดำน้ำ สำหรับมือใหม่ ไปจนถึงนักดำน้ำที่มีประสบการณ์
ความลึก 5 - 25 เมตร
ทัศนวิสัยใต้น้ำ 10 - 20 เมตร
กระแสน้ำ None - Medium
อุณหภูมิน้ำ 27-31 °C
จุดดำน้ำ
  • เกาะพีพีดอน
  • เกาะพีพีเล
  • เรือจมเกล็ดแก้ว
  • เกาะบิดะนอก
  • เกาะบิดะใน
  • หินบิดะ
  • เกาะยูง
ฤดูท่องเที่ยว สามารถดำได้ตลอดทั้้งปี แต่ช่วงเดือน ม.ค. - พ.ค. น้ำจะใส
สิ่งที่น่าสนใจ เต่ากระ, ฉลามครีบดำ, ฉลามดาว, ปลากระเบน,  ปลาหมึกยักษ์, ปลาไหลมอเรย์ และปลาสิงโต

ข้อมูลทั่วไป

เป็นหมู่เกาะที่อยู่ภายใต้อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี โดยมีเกาะหลักคือเกาะพีพีดอนและเกาะพีพีเล รวมทั้งมีเกาะเล็กๆ รอบข้าง เช่น เกาะยูง เกาะไม้ไผ่ เกาะบิดะใน เกาะบิดะนอก มีจุดดำน้ำที่น่าสนใจหลายแห่ง ทั้งจุดดำน้ำลึกและดำน้ำตื้น

“เกาะพีพีดอน” คือเกาะที่ใหญ่ที่สุด มีที่พักของเอกชนหลายแห่ง รวมถึงร้านอาหาร ร้านค้าต่างๆ และทัวร์ดำน้ำที่มีทั้งทริปดำน้ำตื้นและดำน้ำลึก

ส่วน “เกาะพีพีเล” จะไม่มีที่พักและร้านค้า แต่มีจุดชมวิวสวยงามขึ้นชื่อหลายแห่ง เช่น อ่าวมาหยา ถ้ำไวกิ้ง อ่าวปิเละ อ่าวโละซามะ

ในอดีต อ่าวมาหยาเคยมีปัญหานักท่องเที่ยวล้นหาดจนธรรมชาติเสื่อมโทรม ทำให้ในที่สุดก็มีการประกาศปิดหาดเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติเป็นเวลาหลายปี จนกระทั่งอ่าวแห่งนี้กลายเป็นบ้านของฉลามหูดำนับร้อยตัว ซึ่งแต่ก่อนไม่เคยมีให้เห็นเนื่องจากหน้าอ่าวเต็มไปด้วยเรือท่องเที่ยว จนกระทั่งเมื่อเปิดการท่องเที่ยวอีกครั้ง ได้มีการปรับเปลี่ยนไม่ให้เรือจอดหน้าหาด แต่ให้จอดทางอ่าวโละซามะแทน และมีการจำกัดนักท่องเที่ยวต่อวัน

จุดดำน้ำ (รายละเอียด)

เกาะพีพีดอน

อ่าวนุ้ย : มีแนวปะการังที่สวยงาม เป็นจุดขึ้นชื่อเรื่องการพบม้าน้ำและฉลามเสือดาว

อ่าวต้นไทร : มีแนวกำแพงหินที่เต็มไปด้วยกัลปังหา ปะการังเขากวาง ทากทะเล และเป็นจุดที่เจอม้าน้ำได้ไม่ยาก

เกาะพีพีเล

อ่าวมาหยา & ผาป่ะหล่อง (Palong Wall) : มีแนวกำแพงหินที่เต็มไปด้วยปะการังสวยงาม มีทั้งม้าน้ำ ปลากบ ปลาจิ้มฟันจระเข้ซ่อนตัวอยู่ และที่สำคัญคือเป็นบ้านของฉลามหูดำ ที่สามารถเจอได้เป็นฝูงตั้งแต่ตัวเล็กถึงตัวใหญ่ ส่วนเต่าทะเลก็เจอได้ไม่ยากเช่นกัน

ถ้ำไวกิ้ง : มีแนวปะการังเทียมและจุดอนุบาลปะการัง ฝูงปลากะพง ปลาปักเป้า ปลาสิงโต ปลาแมงป่อง ปลาการ์ตูน บางโอกาสก็มีเต่ากระและฉลามหูดำแวะเวียนมา สามารถดำได้ทั้งสน็อกเกิลและสกูบา

อ่าวโละซามะ : เหมาะทั้งดำน้ำตื้นและดำน้ำลึก อีกทั้งเป็นจุด Night Dive ที่น่าสนใจ มีปะการังแข็ง ปะการังอ่อน กัลปังหา ดอกไม้ทะเล และถ้าโชคดีอาจได้เจอม้าน้ำ

เกาะอื่นๆ และจุดดำน้ำใกล้เคียง

เรือจมเกล็ดแก้ว : ความลึก 14-27 เมตร เป็นเรือหลวงปลดประจำการที่จมลงเพื่อเป็นปะการังเทียมในปี 2014 เต็มไปด้วยฝูงปลามากมาย ทั้งปลากะพง ปลาสาก ปลากล้วย รวมถึงฉลามพยาบาล ปลากบ

เกาะบิดะนอก : ความลึก 3-25 เมตร ในบริเวณน้ำตื้นมีโอกาสเจอฉลามหูดำ ส่วนตามแนวกำแพงหินให้มองดีๆ อาจเจอปลาจิ้มฟันจระเข้ปีศาจหรือหมึกสายพรางตัวเนียน บนพื้นทรายในน้ำลึกก็อาจเจอฉลามเสือดาว ตามซอกหลืบก็อาจเจอฉลามกบซ่อนตัวอยู่ รวมถึงปลาไหลมอเรย์ ปลากบ ม้าน้ำ กลางน้ำมีฝูงปลาสากและฝูงปลามง เต่าทะเล แม้แต่พี่ใหญ่อย่างฉลามวาฬก็เคยแวะมาทักทายด้วย

เกาะบิดะใน : ความลึก 3-25 เมตร มีปะการังอ่อนสีสันสวยงาม มีดอกไม้ทะเลและปลาการ์ตูนจำนวนมาก แถมด้วยปลาหูช้างฝูงใหญ่ และสัตว์อีกมากมายคล้ายกับเกาะบิดะนอก อีกทั้งบางโอกาสอาจได้เจองูทะเล

หินบิดะ : เป็นภูเขาหินเหนือน้ำที่ห่างจากเกาะบิดะ 6 กิโลเมตร บางครั้งเรียกว่า “Phi Phi Shark Point”  เนื่องจากมีโอกาสเจอฉลามเสือดาวได้บ่อยครั้ง (คนละจุดกับ Shark Point หรือหินมูสังที่อยู่ระหว่างภูเก็ตกับพีพี)

เกาะยูง : ปัจจุบันปิดการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ

การเดินทาง

การดำน้ำในแถบนี้ทำได้หลายแบบ ได้แก่

  • ใช้บริการ liveaboard ที่ออกเรือจากท่าเรือในภูเก็ต
  • พักบนฝั่งจังหวัดกระบี่ แล้วใช้บริการ day-trip จากร้านดำน้ำหรือรีสอร์ทแถบชายทะเลกระบี่
  • เดินทางมาพักที่เกาะแล้วซื้อ day-trip จากร้านดำน้ำบนเกาะพีพี

หากใครจะเดินทางมาพักที่เกาะพีพีสามารถเดินทางได้หลายวิธี ได้แก่

  1. จากกระบี่
    - หากเดินทางด้วยเครื่องบิน จากสนามบินกระบี่จะมีรถ Shuttle bus มาถึงท่าเรือคลองจิหลาด
    - หากมาทางรถทัวร์หรือรถตู้ สามารถลงที่สถานีขนส่งกระบี่และต่อรถสองแถวแดงมาที่ท่าเรือ
    - จากท่าเรือคลองจิหลาด มีเรือเฟอร์รีวันละ 2 รอบ ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง โดยมีปลายทางที่ท่าเรือต้นไทร เกาะพีพีดอน
  2. จากภูเก็ต
    - จากสนามบินภูเก็ต สามารถต่อรถ Airport Bus หรือแท็กซี่มาที่ท่าเรือรัษฎา
    - หากมาทางรถตู้หรือรถทัวร์ สามารถต่อรถสองแถวสีชมพูหรือเรียกมอเตอร์ไซด์รับจ้างไปท่าเรือ
    - จากท่าเรือรัษฎา มีทั้งเรือสปีดโบ้ทและเรือเฟอร์รีจากหลายบริษัทให้บริการ ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง โดยมีปลายทางที่ท่าเรือต้นไทร เกาะพีพีดอน เช่นเดียวกัน
 ภูเก็ต

การเดินทางมายังภูเก็ต

เครื่องบิน ปัจจุบันมีเที่ยวบินตรงภายในประเทศจากกรุงเทพฯ เชียงใหม่ เกาะสมุย และอีกหลายจังหวัดทั่วไทย และบินตรงจากต่างประเทศอีกนับสิบประเทศ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง เกาหลีใต้ ลอนดอน แฟรงก์เฟิร์ต บาหลี ซิดนีย์ และปารีส เป็นต้น

หากท่านไม่สามารถบินตรงจากประเทศของท่านมายังภูเก็ตได้ ก็สามารถบินมายังกรุงเทพฯ แล้วเลือกเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ สู่ภูเก็ตที่มีให้เลือกกว่า 50 เที่ยวบินต่อวัน ด้วยระยะเวลาการเดินทางเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น

รถยนต์ จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางสายธนบุรี-ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข 35) แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ผ่านจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา ข้ามสะพานสารสิน เข้าจังหวัดภูเก็ต ระยะทาง 862 กิโลเมตร

รถโดยสารประจำทาง มีรถโดยสารทั้งรถธรรมดา และรถปรับอากาศ ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ ไปภูเก็ตทุกวัน

ไม่มีบริการรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปภูเก็ตโดยตรง หากต้องการเดินทางโดยรถไฟต้องไปลงที่สถานีรถไฟพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี แล้วต่อรถประจำทางเข้าจังหวัดภูเก็ต