อ่านเรื่องนี้มาจากนิตยสารดำน้ำฉบับหนึ่งนะครับ (Rodale's Scuba Diving: Out of Practice, Out of Luck: March 2002) ดูแล้วมีประโยชน์หลายเรื่อง ก็เลยเอามาฝากเพื่อนๆ ครับ
กีฬาดำน้ำ เป็นกิจกรรมที่เต็มไปด้วยกฏระเบียบ เช่นเดียวกับกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย โดยมีสิ่งที่สำคัญ เกิดมาจากวิจารณญาณของผู้ดำน้ำเอง แต่มีบ่อยครั้งมากเหลือเกิน ที่นักดำน้ำที่มีประสบการณ์มาก ปล่อยให้ความรู้ และอัตตาของตัวเองเข้ามาบดบังวิจารณญาณ การตัดสินใจที่ดีของตัวเองไปเสีย ดูอย่างในกรณีของจิลล์นี่นะครับ
จิลล์เป็นผู้สอนดำน้ำที่ไม่ได้ดำน้ำมานาน เนื่องจากตั้งครรภ์ สองปีที่เธอห่างจากการดำน้ำไป เธอตัดสินใจที่จะกลับมาดำน้ำอีก โดยนัดกันไปดำน้ำกับลูกศิษย์ ที่เคยเรียนดำน้ำกับเธอมาก่อน เธอค่อนข้างจะรู้ตัว ว่าสภาพร่างกายไม่เหมือนเดิม ความแข็งแรง และสมรรถภาพทางกายของเธอ มีน้อยกว่าเดิมมาก และในฐานะมืออาชีพทางการดำน้ำ เธอก็น่าจะรู้ตัวดีว่าทักษะการดำน้ำของเธอ ก็อาจจะขึ้นสนิมด้วยเช่นกัน
เมื่อไปดำน้ำกันในสถานที่ที่ใกล้ๆ เป็นที่นิยมกันในหมู่นักดำน้ำ ห่างจากฝั่ง 60 หลา และมีความลึกประมาณ 60 ฟิต (18 เมตร) แต่ในเวลาที่มีกระแสน้ำ ก็อาจจะมีน้ำแรง และพัดนักดำน้ำเข้าไปหากำแพงใต้น้ำได้โดยง่าย
จิลล์กับบัดดี้ของเธอ แองแจลล่า ลงน้ำไปขณะน้ำตายหลังจากขึ้นสูงสุดแล้ว แองเจลล่าสังเกตเห็นว่าจิลล์มีอาการเหนื่อย ขณะที่ว่ายน้ำไปยังทุ่นที่จุดหมายดำน้ำ จิลล์บอกเธอว่าไม่มีปัญหา แต่ต้องขอเวลาในการพักให้หายเหนื่อย สักหน่อยหนึ่งก่อนที่จะเริ่มดำน้ำ เมื่อดำไปได้สักยิ่สิบนาที แองเจลล่าพบว่ากระแสน้ำเริ่มไหลแรงขึ้น เธอหันไปถามจิลล์ว่าไหวไหม เนื่องจากเธอสังเกตอาการของจิลล์ ก่อนลงดำว่าอาจจะไม่ฟิตนัก จิลล์ตอบว่ายังไหว และทั้งคู่ก็ดำน้ำต่อไปอีกสิบนาที
สามสิบนาทีหลังจากดำน้ำกัน แองเจลล่ารู้สึกว่ากระแสน้ำจะรุนแรงเกินไป เธอให้สัญญาณกับจิลล์ให้ขึ้นกัน เมื่อขึ้นมาผ่านความลึก 40 ฟิต (12 เมตร) แองเจลล่าพบว่าจิลล์ขึ้นด้วยความเร็วสูงมาก และควบคุมไม่ได้ในเวลาต่อมา นักดำน้ำทั้งสองขึ้นมาพบว่า มีคลื่นโต และกระแสน้ำกำลังผลักดันให้ทั้งคู่ ไหลเข้าไปสู่กองหินกำแพงใต้น้ำ ในเวลานั้น เนื่องจากควบคุมการจมลอยไม่ได้ และการขึ้นอย่างเร็ว ทำให้จิลล์กำลังจะ Panic พยายามว่ายน้ำอย่างรวดเร็ว เพื่อจะกลับไปให้ถึงฝั่งให้ได้ แต่เนื่องจากการว่ายน้ำที่ไม่ถูกต้อง ทำให้เธอเหนื่อยเป็นอย่างมาก และ Panic ในที่สุด ก่อนที่แองเจลล่าจะทำอะไรได้ จิลล์ก็ได้ถอดหน้ากากออกมา และกลืนน้ำเข้าไปในตัวแล้ว
แองเจลล่ารับรู้ได้ทันทีว่า มีเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น และส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือออกไป นักดำน้ำ Rescue Diver สองคน คว้าอุปกรณ์ดำน้ำพื้นฐานว่ายออกมาช่วยเหลือทันที ในขณะที่แองเจลล่าพยายามให้จิลล์สงบสติอารมณ์ แต่ไม่เป็นผล สิ่งที่แองเจลล่าทำได้ก็คือ ปลดเข็มขัดตะกั่วของจิลล์ออก เพื่อเพิ่มการลอยตัวให้กับจิลล์เท่านั้นเอง ในช่วงเวลานั้น จิลล์ก็หยุดหายใจไป นักกู้ภัยทั้งสามนำจิลล์ขึ้นจากน้ำ และทำการผายปอดด้วยวิธีการ Mouth to Mouth ตั้งแต่ขณะที่อยู่ในน้ำ เมื่อมาถึงชายหาด จิลล์ก็เริ่มไอ และสามารถหายใจได้ด้วยตนเอง
เมื่อนักดำน้ำทั้งหมดมาถึงชายหาดแล้ว ก็มีรถพยาบาลมารอรับอยู่ เนื่องจากมีคนในกลุ่มได้เรียกรถพยาบาลไว้ ตั้งแต่รับรู้ว่าเกิดเหตุแล้ว จิลล์ได้ถูกพาเข้าโรงพยาบาล และพบว่ามีอาการปอดบวม (Aspiration Pneumonia: ใช่ปอดบวมหรือเปล่า เพื่อนๆ ที่เป็นแพทย์ช่วยด้วยครับ) อันเนื่องจากการหายใจเอาน้ำเข้าไป เธอต้องนอนอยู่ที่โรงพยาบาล แต่ก็ยังโชคดีที่ยังสามารถหายจากอาการป่วยได้ ภายในเวลาไม่นาน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เพราะจิลล์ถือว่าตนเองเคยสอนดำน้ำมาเป็นเวลาห้าปี ทำให้คิดว่าความสามารถของตัวเองยังเหมือนเดิม เหมาเอาว่าประสบการณ์ที่ผ่านมา ทำให้เธอไม่จำเป็นต้องมาทบทวนทักษะการดำน้ำ และฝึกฝนสมรรถภาพทางกายก็ได้ เธอน่าจะรู้ดีกว่านี้
ยังโชคดีที่เธอฝึกนักเรียนของเธอมาเป็นอย่างดี ทำให้พวกเขาสามารถช่วยเหลือ และจัดการกับเหตุการณ์ฉุกเฉิน ที่ผู้สอนสร้างให้ เพียงแต่เป็นเหตุการณ์ที่จริงจังเท่านั้นเอง หลังจากนั้น จิลล์ก็ได้ไปฝึกออกกำลังกาย รวมทั้งทบทวนทักษะการดำน้ำเสียใหม่ และกลับมาแบ่งปันความรักที่มีต่อทะเล ของเธอกับนักเรียนดำน้ำของเธอต่อไป
บทเรียนนี้ให้อะไรบ้าง
- หลังจากไม่ได้ดำน้ำมานานๆ ไม่ว่าจะมีประสบการณ์มาแค่ไหน ควรจะได้รับการทบทวน ในสิ่งแวดล้อมที่ควบคุมได้ (เช่นในสระ: ผู้แปล) กับผู้สอนดำน้ำมืออาชีพ
- ประสบการณ์ และความรู้ไม่สามารถทดแทนสมรรถภาพทางกายได้
- นักดำน้ำทุกคน ไม่จำกัดประสบการณ์ ก็สามารถพบว่าตัวเองตกอยู่ในเหตุการณ์ฉุกเฉินได้
- ถึงแม้จะดำน้ำกับผู้ที่มีประสบการณ์มากกว่า แต่ก็ต้องเตรียมพร้อมสำหรับการรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉิน ที่ไม่ได้คาดหมายไว้ด้วย
- อุปกรณ์ให้สัญญาณ มีบทบาทมากในการช่วยชีวิต ควรเป็นอุปกรณ์พื้นฐาน ที่ต้องมีสำหรับนักดำน้ำทุกคน
- นักดำน้ำทุกคน ควรได้รับการฝึกทักษะพื้นฐานในการกู้ภัย เพื่อให้สามารถรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินได้ หากเกิดขึ้นมา