แนวคิดเรื่องของการเป็น Dive Leader

ที่ความลึก 12 เมตรหลังจากดำน้ำอ้อมหินก้อนใหญ่ ผมมองกลับไปหาบัดดี้ของผมและไม่พบใคร ในขณะเดียวกัน ผู้นำในการดำน้ำของเราได้ส่งสัญญาณให้กลับไปยังเรือ เพราะมีนักดำน้ำหายไปหนึ่งคน ทุกคนในกลุ่มกลับไปที่เรือภายในเวลาอันสั้น ขณะที่ผู้นำในการดำน้ำของพวกเราพยายามมองหาบัดดี้ของผมที่หายไป หลังจากที่ผมขึ้นไปบนเรือและถอดอุปกรณ์ดำน้ำออกหมดแล้ว ผมก็เปลี่ยนเป็นชุดที่จะทำการ skin dive เพื่อจะหาบัดดี้ของผมที่หายตัวไปในทิศทางอื่น ผมกับผู้นำในการดำน้ำหาจนวนมาพบกันโดยไม่มีวี่แววของบัดดี้ที่หายไปของผมเลย เราพยายามตามหาต่อไปทั้งๆ ที่ผมเริ่มใจคอไม่ดีแล้ว เพราะเวลาได้ผ่านไปนานพอที่จะทำให้คนที่จมน้ำอาจจะเสียชีวิตได้แล้ว

ทันใดนั้น เจ้าหน้าที่ในเรือก็ได้ส่งสัญญาณ OK มายังพวกเราที่กำลังหานักดำน้ำอยู่ เราทั้งสองก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกและว่ายน้ำกลับไปที่เรือ และพบว่าบัดดี้ของผมที่หายตัวไปขณะดำน้ำกันอยู่นั้น นั่งอยู่อย่างปลอดภัยบนเรือ

ขณะที่ผมว่ายน้ำกลับมาพร้อมกับผู้นำในการดำน้ำ ผมเริ่มเข้าใจถึงหน้าที่และความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ ของผู้ที่ทำหน้าที่ dive leader รวมทั้งความเครียดอันต่อเนื่องจากการทำงานดังกล่าว ขณะที่พวกเขานำกลุ่มนักดำน้ำ ซึ่งในมุมมองของนักดำน้ำทั่วไปที่มาใช้บริการ จะดูคล้ายกับว่าเป็นงานประจำง่ายๆ ที่ทำกันอย่างสม่ำเสมอจนเคยชิน

เมื่อผมมีโอกาสได้คุยกับ dive leader เหล่านั้น ก็พบว่าถึงแม้จะเป็นงานที่ตื่นเต้น ท้าทาย และสนุก ทำให้มีโอกาสที่จะดำน้ำได้ทุกวัน ได้ประสบการณ์มากมาย แตกต่างกันกับนักดำน้ำทั่วๆ ไป แต่เบื้องหลังนั้นเป็นเรื่องที่ยาก รับผิดชอบสูง และต้องใช้ทักษะหลายด้านรอบตัว ตั้งแต่การดูแลนักดำน้ำที่บาดเจ็บ จนถึงเรื่องการรู้จักสัตว์ทะเลทุกชนิดที่มีอยู่ในแนวปะการัง ต่อเนื่องไปถึง การทำความสะอาดเรือ ขนถ่ายอุปกรณ์ และการอัดถังอากาศ สำหรับการดำน้ำวันต่อไป หากเพิ่มเหตุการณ์ นักดำน้ำหายไปในวันหนึ่งเข้าด้วยแล้ว ก็ยิ่งเห็นได้ชัดว่า งานการเป็น dive leader นี้ ไม่ใช่งานสำหรับใครก็ได้ทุกๆ คน ผู้ที่จะทำหน้าที่ dive leader นี้ จะต้องมีความสามารถในการประเมินความสามารถของนักดำน้ำทุกคนที่มาใช้บริการ รู้สึกรับรู้ได้เมื่อนักดำน้ำตกอยู่ในความลำบาก ต้องสามารถป้องกันปัญหา บ่งชี้ถึงปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่ปัญหาจะลุกลามบานปลายจนควบคุมได้ยากหรือไม่ได้ นอกจากนั้น dive leader ยังต้องสามารถที่จะเริ่มกระบวนการกู้ภัย ทันทีที่พบว่ามีอุบัติเหตุหรือปัญหาร้ายแรงเกิดขึ้น

ในขณะที่ dive leader จะต้องคำนึงถึงเรื่องต่างๆ ดังที่กล่าวมา ในความคิดของนักดำน้ำที่มาใช้บริการ พวกเขาก็ต้องการอิสรภาพที่จะไปดูโน่นดูนี่ตามใจชอบ และไม่ต้องการถูกต้อนให้ไปตาม dive leader อย่างเดียว คนที่เป็นผู้นำในการดำน้ำที่ดีจึงต้องทำสถานการณ์ในการดำน้ำให้อยู่ภายใต้การควบคุมเพื่อความปลอดภัย และต้องให้อิสรภาพแก่นักดำน้ำเพื่อความสนุกสนานในเวลาเดียวกัน

นอกเหนือจากเรื่องการดูแลความปลอดภัยแล้ว เรื่องของการที่ dive leader จะต้องดำน้ำมากๆ อย่างต่อเนื่องก็สำคัญ การดำน้ำอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายๆ วัน และในบางสถานการณ์ ก็ต้องดำน้ำมากกว่าผู้มาใช้บริการ บางเวลาจะต้องเหนื่อยในการจับ การจูง การลาก ทำให้งานของ dive leader นั้น เกินระดับการได้รับแรงกดดันใต้น้ำของ sport diver และขึ้นไปอยู่ในระดับเดียวกับคนที่ทำงานแบบ commercial diver ทำให้เกิดคำถามถึงเรื่องการดำน้ำมากเกินไป ว่าจะมีผลกระทบร้ายแรงอย่างไรกับร่างกายของ dive leader เหล่านั้นหรือเปล่า ตัวอย่างเช่น นักดำน้ำหลายคนที่เป็นพวก commercial diver ที่ต้องดำน้ำลึกต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน มีอาการบาดเจ็บของกระดูกและข้อต่อต่างๆ ในร่างกาย ถึงแม้ว่าปัญหานี้ไม่เกิดขึ้นในกลุ่ม sport diver แต่สำหรับคนที่ทำงานเป็น dive guide แล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ควรตระหนักไว้ว่า อาจมีโอกาสเกิดขึ้นกับเขาได้ สำหรับคนที่ทำงานประเภท commercial diver แล้ว คนเหล่านี้จะต้องได้รับการ x-ray กระดูกเป็นระยะ ในขณะที่คนทำงานเป็น dive leader ซึ่งได้รับการสัมผัสกับ Nitrogen exposure ในระดับเดียวกัน กลับไม่มีโอกาส หรือจำเป็นที่จะต้องไปทำการ x-ray

ในการดำน้ำบางสถานที่ ที่มีอุปสรรคต่างๆ เช่น มีกระแสน้ำรุนแรง หรือมีอันตรายอื่นๆ ที่ไม่สามารถสังเกตได้โดยง่าย ก็เป็นเรื่องที่คนทำหน้าที่ dive leader จะต้องตระหนักไว้ให้ดี การตัดสินใจเกี่ยวกับการดำน้ำอย่างปลอดภัย เป็นหน้าที่สำคัญยิ่งยวดของ dive leader คนที่ทำหน้าที่นี้ ต้องประเมินทักษะของนักดำน้ำ และจัดให้นักดำน้ำได้ดำน้ำในสถานที่ และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับระดับทักษะของเขา ผู้ที่ทำหน้าที่ dive leader ได้เป็นอย่างดี จะจัดการกับสิ่งเหล่านี้ได้อย่างสบายๆ และทำให้งานดูเหมือนง่ายๆ แต่ก็ยังมีอันตรายอื่นๆ ที่คาดไม่ถึงอีก ที่ dive leader จะต้องคำนึงถึงอยู่ตลอดเวลา เช่น นักดำน้ำที่เกิดอาการ panic และอาจทำอันตรายต่อนักดำน้ำคนอื่น หรือต่อผู้ที่เข้ามาช่วยเหลือ การนำเอานักดำน้ำที่หมดสติขึ้นมาสู่ผิวน้ำก็เป็นเรื่องเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ dive leader ต้องทำหน้าที่นั้นคนเดียว หลังจากดำน้ำเป็นเวลานานกับกลุ่มที่ตนนำไป

ผู้ที่ทำหน้าที่ dive leader จึงต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ในเรื่องการดำน้ำ ต้องติดตามเรื่องวิทยาการใหม่ๆ ที่มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เกี่ยวกับเทคนิคการดำน้ำและอุปกรณ์ ต้องรอบรู้เรื่องผลกระทบของการหายใจด้วยอากาศภายใต้ความกดดัน และมีความรู้เรื่องการป้องกันแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินได้เป็นอย่างดี รวมทั้งต้องเป็นผู้ที่สามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง ไม่เป็นผู้ที่จะนำตนเองและกลุ่มที่ตนนำไปอยู่ในสถานการณ์เลวร้าย การที่จะทำอย่างนั้นได้ จึงต้องอาศัยความเป็นคนที่ละเอียดถี่ถ้วน มีความรอบคอบไม่ประมาท มีความระมัดระวังอยู่เสมอ และสนใจใฝ่รู้ หมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมตลอดเวลา

สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งในการทำหน้าที่ dive leader ก็คือ ต้องเป็นผู้ที่มีร่างกายและจิตใจสมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอ ต้องเป็นคนที่ใส่ใจในเรื่องการรักษาสุขภาพ และมีการฝึกฝนการเพิ่มสมรรถภาพทางร่างกาย และจิตใจตลอดเวลา ควรเป็นคนที่รักการออกกำลังกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การออกกำลังกายแบบแอโรบิค และการฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ หมั่นตรวจสอบสุขภาพของตนเอง และศึกษาเรื่องวิธีการเสริมสร้างสมรรถภาพทางจิตใจ จนถึงการนำมาฝึกฝนจนใช้การได้

งาน dive leader นี่ คนส่วนมากก็บอกว่ามันไม่ค่อยสนุกเท่ากับดำน้ำเล่นเองครับ แต่มีหลายคนที่คิดว่ามันเป็นงานที่ท้าทาย และหลังจากนั้นแนวคิดเกี่ยวกับการดำน้ำก็จะเปลี่ยนแปลงไปครับ

ผมเคยเห็นคนที่มาฝึกเป็น dive leader ในช่วงแรก พวกเขาจะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ยาก สติแทบแตก เพราะต้องทำงานหลายๆ งานพร้อมๆ กัน ต้องแยกประสาทให้ดี แถมงานนั้นยังสำคัญซะอีก เพราะมันเกี่ยวข้องกับสวัสดิภาพ และความปลอดภัยของลูกทัวร์

ระยะแรกทุกคนก็คงเครียดกันครับ ความเครียดจากกิจกรรม การแสดงความสามารถทางกายนั้น มันมีสาเหตุจากสองสิ่ง

  1. เหตุการณ์นั้นสำคัญ และมีผลกระทบต่อไป แน่นอนครับทำหน้าที่ dive leader นี่ เป็นบทบาทที่สำคัญครับ ทุกคนเป็นห่วงลูกทัวร์ของตน อยากให้ปลอดภัย และก็อยากให้สนุก
  2. เหตุการณ์นั้นไม่แน่นอน คือไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเจออะไร ซึ่งก็เข้าเกณฑ์การทำงานของ dive leader อีกนั่นแหละครับ เพราะทำงานไปก็ไม่แน่ใจว่า วันนี้จะพบเหตุอะไรบ้าง

แถมยังต้องแยกประสาท ต้องทำการ navigate ขณะที่ต้องคอยเหลือบหรือหันไปดูความเรียบร้อยของกลุ่ม ต้องประเมินสภาพจิตใจและทักษะของลูกทัวร์ทุกคนตลอดเวลา ต้องสังเกตและถามเรื่องอัตราการใช้อากาศของแต่ละคน และต้องวางแผนการเดินทางกลับมาที่จุดขึ้น ให้สอดคล้องกับปริมาณอากาศที่เหลือของลูกทัวร์และตัวเอง นอกจากนั้น dive leader ส่วนใหญ่ก็ทำหน้าที่ dive guide คอยชี้ชมสิ่งน่าสนใจใต้น้ำอีกต่างหาก

แต่เมื่อพวกนี้ เขาปรับสภาพของระบบประสาท และปรับจิตใจให้รับมือกับความสำคัญ ความไม่แน่นอนของเหตุการณ์ได้แล้ว ส่วนมากมักจะพบว่างานนี้สนุกและท้าทาย ทำให้การดำน้ำมีอรรถรสมากกว่าเดิมนะครับ หลายคนที่ผมรู้จักถึงกับบอกว่า หากดำน้ำแล้วไม่ได้ดูแลคนให้สนุกและปลอดภัยแล้ว ดูเหมือนจะไม่สมบูรณ์แบบ หรือขาดอะไรไปสักอย่างทีเดียวครับ

จากประสบการณ์ ผมเชื่อว่าการวางแผนดำน้ำที่ดี การ brief ที่เข้าใจ ความรอบคอบ และความช่างสังเกตสิ่งละเอียดอ่อนต่างๆ จะทำให้งานการเป็น dive leader ง่ายขึ้น และหนักใจน้อยลงครับ

Dive Master หรือ Dive Leader ที่ดีจะต้องมี

  1. ความเป็นมืออาชีพ
  2. เป็นตัวอย่างที่ดีในการดำน้ำ
  3. มีความสามารถในการช่วยเหลือ แก้ไขปัญหา
 
เขียนโดย ดร. พิชิต เมืองนาโพธิ์